ตอนที่ 114 กริมมัวแห่งการลวงหลอก
มาเรี่ยนกับชารอนติดต่อฉันมาผ่านคริสทัลสื่อสาร....
『น่าทึ่งมากเลยค่ะที่มีร้านขายเสื้อผ้าตรงนี้ด้วย....เดี๋ยวฉันกับชารอนจะไปดูสักหน่อยนะคะ』
พวกเธอบอกฉันว่าจะไปหาซื้อชุด
แต่ก็น่าทึ่งจริงๆ...เพราะในอดีตแค่ร้านขายชุดสักร้านยังไม่มีเลย แต่ตอนนี้กลับมีร้านค้ามากมายอยู่ภายในเมือง
นอกจากนี้ก็รู้สึกว่าการติดต่อสื่อสารที่แสนแพงอย่างคริสทัลสื่อสารก็ถูกนำมาใช้ติดต่อเรื่องง่ายๆพวกนี้ก็แอบน่าทึ่งเหมือนกัน
ด้วยเหตุนี้เองฉันจึงไม่สามารถหนีออกจากคำขอบางอย่างได้ ชักเป็นความสะดวกที่ไม่ค่อยสะดวกแล้วสิ
「แล้วพวกเราจะทำอะไรกันต่อล่ะ?」
ลิดากับเฟร มาเรียกับเซซิเลียเองก็บอกว่าคงต้องใช้เวลาด้วยกันอีกพักใหญ่
「งั้นพวกเราไปรอกันที่โรงแรมของกิลด์นักผจญภัยดีไหม? ถึงแม่อาจจะไม่ค่อยชอบ....…」
「ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้แม่เองก็มีความสุขดี....ถึงไคโตะจะทำตัวงี่เงาไปบ้าง...แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะ...ไปกันเถอะ」
「เซเรสคุงฉันเองก็เริ่มหิวแล้วด้วยสิ...รีบไปกันเลยดีไหมจ๊ะ?」
「「เห็นด้วย(ค่ะ)」」
「งั้นก็ไปหาลุงไคโตะกันเลย…」
สุดท้ายพวกเราก็ตัดสินใจไปที่โรงแรมของทางกิลด์นักผจญภัย
「 ยินดีต้อนรับ..อ๊ะ ทำไมอัศวินดำคลั่ง กับรอยยิ้มเพชรฆาตถึงมา...นอกจากนี้ก็มีเจ้าหญิงหยาดน้ำแข็งกับฮิลเลอร์ผมดำอีก...ไม่จริงน่า」
เอ๋? ทำไมใบหน้าของเอเลนอร์ซังถึงแดงขนาดนั้นล่ะ
「เอเลนอร์ซัง..ไหวหรือเปล่าครับ?」
「แย่แล้วสิ ทำตัวไม่ถูกเลย...พวกท่านต่างก็เป็นเป็นนักผจญภัยที่ฉันชื่นชม ดังนั้นก็เลยประหม่านิดหน่อยน่ะ...โดยเฉพาะอัศวินดำคลั่งท่านมิซากิ...เธอเป็นไอดอลของฉันเลย รู้หรือเปล่าเพราะท่านมิซากิฉันก็เลยเลือกเส้นทางแห่งดาบ」
ภาพของเธอตอนนี้เหมือนเด็กชายที่เจอไอดอลเลย
「เข้าใจแล้วครับ...แต่ตอนนี้พวกผมมาเพื่อหาอะไรทานกิน ดังนั้นช่วยพาไปที่โต๊ะหน่อยนะครับ หรือถ้าว่างก็ขอเชิญคุณมานั่งทานด้วยกันได้เลย」
「ได้เหรอคะ? งั้นฉันจะรีบไปจัดการอะไรให้เรียบร้อยเอง....แล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าอาหารนะคะ...ฉันกับสามีจะเป็นคนรับผิดชอบเอง...จะรีบเอาอะไรอร่อยๆมาให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ」
「รบกวนด้วยนะครับ」
「แม่คะ คนคนนั้นคือภรรยาใหม่ของพ่อ! พอเห็นอายุที่ห่างกันขนาดนี้แล้วแอบขนลุกนิดหน่อยเลยค่ะ」
「เมล...แบบนั้นเหมือนเป็นการพูดว่าแม่กับเซเรสซังดูน่าขนลุกด้วยเหรือเปล่าเอ่ย? อยากจะพูดอะไรกันแน่จ๊ะ?」
「เมลซัง...ฉันก็เป็นภรรยาของเซเรสคุงนะ....พูดแบบนั้นจะดีเหรอ?」
「ไม่ใช่นะคะ แบบว่ามันต่างกันค่ะ! อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นสิคะ น่ากลัวเกินไปแล้ว.....ก็แค่แบบล้อเล่นค่ะ!」
「หุหุหุ ล้อเล่นเนอะล้อเล่น」
「ทางฉันเองก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอก」
「ใช่ๆ ก็แค่เรื่องล้อเล่น」
「ล้อเล่น」
ถึงพวกเธอจะบอกแบบนั้น แต่แววตาน่าขนลุกชะมัด
ความกลัวของเมลเอาซะตอนที่เจอแมมม่อนกระจอกไปเลย
ไม่นานนักลุงไคโตะและเอเลเนอร์ซังก็ออกมาพร้อมกับอาหารจานเนื้อและเบียร์
「ฮ่าๆๆ เจอกันอีกแล้วนะ เมล วันนี้มากับซาโยะด้วยเหรอเนี่ย」
「วันนี้หนูพาแม่มาด้วย คงจะไม่เป็นไรใช่ไหม?」
「ก็นั่นสินะ....เรื่องคราวที่แล้วก็...」
「ไม่เป็นไรหรอกน่า อะไรที่แล้วก็ให้มันแล้วไป ตอนนี้นายเองก็มีความสุขดีใช่ไหมล่ะ?」
「ของมันแน่อยู่แล้ว...ภรรยาสาวแบบนี้ใครก็ชอบทั้งนั้นแหละ」
「ไม่รู้ตัวเลยหรือไง...ว่าเมลกำลังมองตัวเองด้วยสีหน้าที่หวาดกลัวอยู่」
「ปกติไคโตะซังก็เป็นพวกอ่านบรรยากาศไม่ออกอยู่แล้วนี่นะ」
「เหลือจะเชื่อ」
「เฮ้อ」
ยังไงก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของคนพวกนี้อยู่แล้ว ฉันคงไม่ต้องกังวลอะไร
「คือว่า...ท่านเซเรสคะ เป็นไปได้ไหมว่าภรรยาคนก่อนของสามีฉันคือ หนึ่งในสี่คนนี้?」
「อ๋อใช้ ซาโยะซังตรงนั้นแหละ」
「เจ้าหญิงหยาดน้ำแข็ง....ยินดีที่ได้พบนะคะ...」
「ชื่อเสียงของฉันมันไปไกลถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?」
「ถึงจะเป็นแค่เรื่องที่ได้ยินมา แต่เรื่องที่ท่านแช่แข็งพวกโจรกว่า 30 คนในขณะที่หัวเราะออกมา หรือจะเรื่องที่แช่แข็งหัวของพวกโจรที่ร้องไห้ขอชีวิตก็ดี ความโกรธที่สามารถแช่แข็งได้ทุกสิ่งนั่น...ฉันประทับใจมากเลยค่ะ」
「แล้วคนอื่นล่ะ เธอรู้จักบ้างไหม?」
「ค่ะ อย่างท่านฮารุกะรอยยิ้มเพชรฆาต...ที่ว่ากันว่าฟาดฟันร่างของอีกฝ่ายทั้งร้อยยิ้มก็ดี แต่ยังไงอันดับหนึ่งในใจของฉันนก็คืออัศวินดำคลั่งท่านมิซากิค่ะ อัศวินดำผู้ฟาดฟันร่างของศัตรูด้วยดาบใหญ่บนม้าที่แสนองอาจ เพียงแค่การฟันครั้งเดียวร่างของพวกโจรก็ถูกผ่าเป็นสองท่อน...พลังทำลายล้างที่แก้ไขได้ทุกปัญหา...แค่คิดก็สั่นไปทั้งตัวแล้วค่ะ!」
「คือว่าเบาได้ก็เบาหน่อยนะ พอดีฉันไม่ค่อยอยากจะให้พูดเรื่องอดีตต่อหน้าเซเรสซังเท่าไหร่ค่ะ」
「อึก...รับทราบแล้วค่ะ...ฉันจะระวังเอาไว้」
「ขอบคุณที่เข้าใจค่ะ...」
ทำไมซาโยะซังถึงใช้เวทสร้างน้ำแข็งขึ้นมาล่ะ...จะเอาไปใส่เบียร์เหรอ...
แต่ทางเอเลนอร์ซังเหมือนจะหน้าซีดไปเลย...
ดูเป็นเรื่องเล่าที่น่าคิดถึงนะเนี่ย....
「 ว่าแต่ทุกคนแน่ใจแล้วเหรอครับว่าไม่อยากออกไปซื้อของกัน?」
「เซเรสคุงพวกเราก็อยู่ในเมืองหลวงกันมานาน ข้าวของอะไรก็มีครบหมดแล้ว ดังนั้นถ้าจะให้สนใจก็คงมีแต่พวกอาหารนี่แหละจ๊ะ」
「อันที่จริงฉันเองก็ทำได้นะ」
「นั่นสินะ」
「อื้อ」
「ฉันก็เหมือนกัน」
ทุกคนเหมือนจะไม่สนใจจริงๆสินะ
◆◆◆
「จะว่าไปเร็วๆนี้ ฉันก็ได้เจอกับอาวุธแปลกๆเข้าด้วย」
ลุงไคโตะพูด
「อาวุธเหรอครับ?」
「อื้อ...จะว่าไงดีล่ะ พูดว่าอาวุธมันก็ไม่เชิงนัก คือว่ามัน...」
มันเป็นเพียงหนังสือเล่มหนึ่ง
「พ่อ ไอ้นี่มันก็แค่หนังสือไม่ใช่เหรอ?」
「เอเลนอร์...แสดงให้พวกเขาเห็นหน่อยสิ」
「อื้อ...นั่นสินะ」
เธอทำการใช้ดาบใหญ่เล่มหนึ่งฟันไปตรงกลางของหนังสือ ทว่าหนังสือกลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
「น่าเหลือเชื่อเลยนะครับ...ถึงขั้นรับดาบใหญ่ได้ ดูยังไงก็เรียกว่าอาวุธได้จริงด้วย」
「แต่ว่าเซเรส หนังสือมันใช้ยากออก หากจะถือของแบบนั้นสู้ไปใช้ดาบเล็กไม่ง่ายกว่าเหรอ」
「ก็นั่นสิน้า」
「พวกเราเองก็เห็นตรงกัน แต่ฉันมองว่าท่านซาโยะอาจจะรู้อะไรก็ได้เลยลองเอามาให้ดูค่ะ」
「แบบนี้นี่เอง กริมมัว(ตำราเวท)น่ะ」
「「「「「「「「กริมมัว?」」」」」」」」
「อื้อ มันเป็นของหายากมากเลยนะ สามารถป้องการการโจมตีทางกายภาพได้ แต่จุดประสงค์จริงๆของมันก็คือใช้ในการอ่านระหว่างต่อสู้น่ะ...โดยมันจะทำการถ่ายทอดมนตร์ที่จำเป็นในขณะนั้นมาให้ผู้ใช้ถูกเลือก ....ฉันเองคงจะไม่ไหวดังนั้น...เมลไม่ลองดูหน่อยล่ะ」
「ุก็ได้...ถ้าแค่ลอง...อ๊ะ เดี๋ยวสิทำไมหนังสือถึงเรื่องแสงขึ้นกัน?」
「เมล ดูเหมือนว่าจะถูกเลือกโดยกริมมัวเล่มนี้นะ....ในเมื่อมันยอมรับลูกในฐานะเจ้านายแล้ว ก็ตั้งชื่อให้มันหน่อยสิ」
「งั้นเอาเป็น กริมมัวแห่งการลวงหลอกแล้วกัน…」
「จะว่าไป...ก็หายากเหมือนกันนะ ได้เคยเห็นกริมมัวลักษณะนี้มาก่อนด้วย」
「แล้ว...หนูต้องใช้มันยังไงเหรอ?」
「แม่ก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกัน...แต่หลักการทั่วไปก็คือมันจะทำการเปิดหน้ามนตร์ที่จำเป็นกับผู้ใช้เองน่ะ」
「แบบนี้จะไหวเหรอแม่」
「แม่ก็รู้มาแค่นี้นี่นา...สรุปง่ายๆก็คงเป็นลูกจะสามารถเปิดได้แค่หน้าที่เป็นมนตร์ซึ่งหนังสือเลือกแล้วว่าจำเป็นสำหรับลูกน่ะ ส่วนหน้าอื่นๆจะเปิดไม่ออก」
「ถ้างั้น…」
「ก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะออกมาเป็นหน้าไหน แต่อย่างน้อยก็ลองเอาไปฝึกฝนใช้งานดูแล้วกัน」
นี่อาจจะเป็นอาวุธที่เหมาะสำหรับหนอนหนังสืออย่างเมลด้วยก็ได้
หลังจากนั้นสาวๆทั้ง 6 คนที่แยกออกไปก่อนหน้านี้ก็กลับมาดื่มด้วยกันกับพวกฉันจนยาวไปถึงเที่ยงคืน