หน้าหลัก > เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย) > ตอนที่ 99

ตอนที่ 99 - เมลกลับบ้าน

เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย)

ตอนที่ 99 เมลกลับบ้าน

มุมของเมล

ตามที่เทศมนตรีนาจิมบอกพ่อของฉันได้กลายเป็นกิลมาสเตอร์ของกิลด์นักผจญภัยไปแล้ว

นั่นจะใช่พ่อของฉันจริงเหรอ?

ด้วยเหตุนี้ฉันก็เลยตรงไปที่กิลด์

「ยินดีต้อนรับสู่กิลด์นักผจญภัย!」

「พ่อ...ทำอะไรอยู่นะ?」

「โอ้ว เมลนี่นา ไม่เจอกันนานเลยนะ! เป็นไงบ้างสบายดีไหม?」

นี่มันอะไรกัน?

พ่อของฉันต้องเป็นคนที่ชอบทำตัวหยาบคาย แล้วก็ไม่ได้กล้ามล่ำขนาดนี้สิ

จะนักผจญภัยหรือทหารรับจ้างเขาก็ไม่ใช่สักหน่อย เขาเป็นแค่ชาวนาธรรมดาไม่ใช่เหรอ...แล้วทำไมสภาพตอนนี้ถึงเหมือนนักผจญภัยเจนสนามนักล่ะ

「รู้สึกว่า พ่อจะเปลี่ยนไปเยอะเลยนะคะ เกิดอะไรขึ้นกัน」

「ก็เพื่อต้อนรับเซเรสกลับมา พ่อก็เลยมาตั้งกิลด์เอาไว้น่ะ....แล้วทีนี้ภรรยาของพ่อก็บอกให้ไปฝึกร่างกายซะบ้าง.....จนทำไปทำมาตอนนี้พ่อก็เลยกลายมาเป็นนักผจญภัยแรงค์ D แล้ว....ถึงจะสู้ลูกที่เป็นแรงค์Sไม่ได้ก็เถอะ」

「ภรรยา?」

ไม่จริงน่า สาวสวยรุ่นราวคราวเดียวกับฉันคนนั้นน่ะเหรอ?

「ยินดีที่ได้พบนะจ๊ะ ฉันเอเลนอร์ หื้ม ความสัมพันธ์ของพวกเราตอนนี้ก็คงเรียกว่าแม่ลูกได้สินะ?」

「คุณเป็น...แม่ของฉัน?」

「ก็น่าจะประมาณนั้นนะ.....ฉันก็แต่งงานกับเขาแล้วด้วย ดังนั้นก็คงใช่แหละเนอะ」

ไม่ๆ...นี่มันใช่เหรอ? ก็จริงว่าเซเรสกับแม่ของฉันมัน...แต่จะพอมาเห็นพ่อตัวเองได้กับเด็กสาวที่อายุน้อยกว่าฉันแล้วมันก็...

ไม่สิเป็นโลลิคอนมันก็พอให้อภัยได้หรอก แต่ใบหน้าของเอเลนอร์ซังมันคล้ายกับฉันเลยไม่ใช่หรือไงกัน....แถมอายุของเธอจริงๆจะเรียกฉันว่าพี่สาวยังได้ด้วยซ้ำ

รู้สึกคันยิกๆเหมือนมีตุ่มขึ้นตามตัวเลย

「ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันชื่อเมล....ฝากตัวด้วย」

「ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ」

จะว่าไปกิลด์นี่ก็ค่อนข้างใหญ่เลย

บาร์ที่อยู่ภายในนั้นก็กว้างขวางด้วย

「กิลด์ค่อนข้างใหญ่เลยนะคะ」

「ตอนแรกพ่อก็ตั้งใจจะไม่ทำให้มันใหญ่โตนะ แต่พอได้คุยกับเทศมนตรีแล้วเค้าก็บอกว่าประชากรคงได้เพิ่มขึ้นอีกเยอะก็ทำๆเผื่อไว้เลยดีกว่า...ถึงตอนนี้จะยังมีสมาชิกไม่ถึง 30 คนก็เถอะ」

แต่มันก็เหมือนจะเผื่อเยอะไปหน่อยนะ

「แล้วคนมันจะเพิ่มขึ้นได้จากอะไรล่ะคะ? 」

「จะว่ายังไงดีล่ะ...ตามที่เทศมนตรีบอกก็คือ พวกเราจะประกาศทำสัญญาอยู่อาศัยภายในหมู่บ้าน(เมือง)เป็นเวลา 10 ปี สำหรับพวกนักผจญภัยที่มีฝีมือน่ะ แล้วยังจะมีเงินสนับสนุนในการแต่งงานหาทาสสาวมาเป็นภรรยาอีก 3 เหรียญทองด้วย」

「ก็หมายความว่าหากใครเป็นนักผจญภัยที่มีฝีมือ ก็จะสามารถซื้อทาสแล้วแต่งงานได้ ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษของหมู่บ้านที่จะมอบให้สินะคะ?」

「ก็ตามนั้นเลย ไม่ใช่แค่นักผจญภัยนะ ช่างฝีมือ หรือทหารผ่านศึกก็ได้เหมือนกัน นอกจากนี้หากตัดสินใจอาศัยที่หมู่บ้าน(เมือง)นี้เป็นการถาวรทางเมืองก็จะมอบบ้านให้เป็นของขวัญด้วย...ยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ」

ก็น่าทึ่งหรอก...แต่ทำไมกันล่ะ

「ก็น่าทึ่งหรอกนะคะ แต่ถ้าทำแบบนั้นงบการเงินมันจะไม่ติดตัวแดงเอาเหรอ」

「อย่างที่ลูกบอก....แต่เทศมนตรีเค้าได้ปรึกษากับเซเรสในเรื่องนี้นานแล้ว เหมือนเซเรสจะเคยบอกเอาไว้ว่า 『ถึงตอนแรกมันจะติดตัวแดง แต่สุดท้ายมันจะนำพามาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของหมู่บ้านอย่างแน่นอน』ทั้งที่เป็นเรื่องที่เขาพูดนานแล้วแท้ๆ...แต่ก็น่าทึ่งจริงๆเพราะพ่อเริ่มเห็นภาพแล้วสิ」

ทั้งที่ฉันเป็นปราชญ์แต่ก็ไม่เคยได้ยินวิธีการแบบนี้มาก่อนเลย

「ก็สุดยอดจริงๆนั่นแหละ」

เพราะแบบนั้นมันก็เลยเป็นเหตุผลสินะว่าทำไม

หากมาที่นี่ไม่ว่าจะเพศไหน เป็นใครก็สามารถซื้อทาสมาแต่งงานด้วยได้ง่ายๆ

แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมถึงมีแต่พวกโลลิคอนกับโชตะคอนผุดมาเป็นดอกเห็ดกัน

「ใช่ไหมล่ะ ตอนนี้พวกเราก็เริ่มมีคนหนุ่มสาวเข้ามากันเยอะแล้วด้วย เมืองก็เริ่มโตขึ้นไปอีก」

「มันก็จริงหรอก...」

แถมยังทำให้พ่อที่ไม่ได้เรื่องของฉันกลายเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาด้วย

คนที่ในอดีตไม่ว่าแม่ของฉันจะพยายามพูดอะไร เขาก็เอาแต่ตะคอกใส่ คนที่ดื้อรั้นไม่ฟังใคร ได้กลายมาเป็นกิลด์มาสเตอร์ที่พูดจาอย่างฉะฉาน

แต่...มันก็น่าหงุดหงิดอยู่ดี

พ่อที่ทำให้ครอบครัวต้องแตกอยกในอดีตด้วยมือตัวเอง...กลับยิ้มได้อย่างอ่อนโยนแบบนี้

「วันนี้พ่อจะหยุดงานหนึ่งวันเพื่อลูกเลยก็ได้นะว่าไงล่ะ」

「คือว่าหนูเป็นข้ารับใช้ของเซเรสเขาค่ะ ดังนั้นคงต้องกลับก่อน....ดีใจนะคะที่เห็นพ่อมีความสุข...เอเลนอร์ซังจากนี้ก็ฝากดูแลพ่อของฉันด้วยนะคะ」

「อื้อ ไว้ใจได้เลย」

จากนั้นฉันก็ออกมาจากกิดล์

อย่างที่คิด แม้จะเข้าไปในบ้านหลังนี้มันไม่ใช่บ้านสำหรับฉันแต่เป็นบ้านสำหรับคู่รักข้าวใหม่ปลามันไปเสียแล้ว

ก็ดีใจที่พ่อกลายเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาแต่...การที่หาภรรยาหน้าตาเหมือนฉันมามันก็อีกเรื่อง

พยายามจะทำความเข้าใจหรอกนะ

แต่อย่างน้อยก็หาอะไรที่มันไม่ใช่แบบนี้จะได้ไหม

ไม่อยากจะกลับมาเหยียบที่นี่อีกแล้ว

เจ้าเมืองที่เต็มไปด้วยโลลิคอนกับโชตะคอน

แค่นึกก็ขนลุกแล้ว