ตอนที่ 90 【เรื่องราวแยก】 สถานที่ที่ฉันไม่คู่ควร 3
ฉันได้ตัดสินใจออกจากบ้านของพ่อ
ก็จริงอยู่ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกรงใจชิวะที่กำลังท้องป่อง แต่ปัญหาใหญ่ๆก็คือเสียงร้องนี่แหละ
ถัดจากห้องของฉันไปก็เป็นห้องของพ่อกับชิวะที่กำลังบรรเลงบทเพลงรักกันตลอดทั้งคืนด้วย....ใครจะไปนอนหลับลงกัน
ชิวะตอนนี้ก็คือภรรยาของพ่อฉันหรือก็คือ...แม่ของฉันนั่นแหละถึงจะน่ารักแค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่แนวฉัน
ถึงจะเข้าได้ดีอยู่แล้วก็เถอะ
แต่ว่า....ถ้าเจอแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ...ถึงเธอจะไม่ใช่แนวของฉันแต่ มันก็ยากที่จะรับมือได้หากต้องมาเจอแบบนี้ไปอีกทุกคืน
สภาพของฉันตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเซเรส...ถึงมาเรียกับอีก 2 คนจะไม่ใช่แนวของเขา...แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลยหากต้องมาโดนยั่วอารมณ์เช้ายันค่ะ
ยิ่งตอนนี้ฉันอยู่ตัวคนเดียวไม่มีใครเคียงข้างด้วย
「พ่อ วันนี้ผมไปนอนที่โรงแรมนะ」
「โฮ่ๆ แย่เลยนะๆ」
「ขอโทษด้วยนะ...ที่พวกเราเสียงดังกันไปหน่อย」
「ไม่เป็นไรหรอกครับ...ยังไงพวกคุณก็เป็นคู่สามีภรรยา ยิ่งเป็นข้าวใหม่ปลามันแล้วด้วย...ขอโทษที่รบกวนนะครับ」
พอเห็นทั้งคู่หน้าแดงออกมา ฉันก็เกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นมาแทน
มันชวนให้นึกถึงแม่กับเซเรส ยังไงคู่แต่งงานก็ต้องทำในสิ่งที่พวกเขาควรทำนี่เนอะ
ก็รู้อยู่ว่าความรักมันก็มีหลายรูปแบบ
ส่วนเซ็กเตอร์พ่อของฉันที่เป็นสายกินเนื้อ ก็คงไม่แปลกอะไรนัก
แต่ยังไงมันก็อดรู้สึกแปลกไม่ได้อยู่ดีที่ต้องมาเห็นคนมีอายุไล่เลี่ยกับตัวเองไปมีอะไรกับพ่อแม่ตัวเอง
โดยเฉพาะเซเรส...คนที่แม่ของฉันคอยตบตีสั่งสอนตั้งแต่เด็ก...แถมมั่นใจเลยว่าแม่เคยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้หมอนั่นตอนเล็กๆด้วย
ได้เห็นสองคนนั้นหัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข ฉันก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว...แต่พอกลับมาแล้วเจอพ่อกับชิวะแบบนี้...มันก็อดนึกถึงเซเรสกับแม่ไม่ได้เหมือนกัน....รู้สึกแย่ชะมัด
สุดท้าย...ถ้าพวกเขามีลูกด้วยกัน....ก็ต้องกลายมาเป็นน้องสาวไม่ก็น้องชายฉันด้วยนี่เนอะ
เห้อ คงต้องพยายามทำใจให้ชินแทนสินะ
◆◆◆
「ยินดีต้อนรับสู่กิลด์นักผจญภัย สาขาหมู่บ้านจิมน่า!」
ทำไมไคโตะมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ!
「ุลุงไคโตะ มาทำอะไรที่นี่กันน่ะ?」
「โฮ่ แซ็คไม่ใช่เหรอไง? ไม่เจอกันนานเลยนะ! ได้ข่าวว่าเลิกเป็นผู้กล้าแล้วนี่」
「ก็มีอะไรหลายๆอย่างน่ะ…」
「ฮ่าๆๆ เข้าใจแล้วๆ อย่าทำหน้าเศร้าไปเลยน่า จากนี้ก็พยายามเข้าแล้วกัน」
「ขอบคุณครับ ว่าแต่ลุงไคโตะมาทำอะไรที่กิลด์กันล่ะ?」
คำว่าผู้กล้าที่ฉันเคยรู้สึกประทับใจราวกับได้รับการยกย่องก่อนจะรู้ตัวมันก็กลายมาเป็นรอยแผลภายในจิตใจเสียแล้ว
「ก็ต้องเป็นกิลด์มาสเตอร์อยู่แล้วน่ะสิ....ถึงจะเป็นกิลด์เล็กที่มีนักผจญภัยอยู่กันน้อยกว่า 30 คนก็เถอะ...แต่ยังไงก็ต้องทำอะไรให้มันถูกต้องนี่เนอะ 」
โดยปกติแล้วการลงทะเบียนเป็นสร้างกิลด์นักผจญภัยนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เว้นเสียแต่จะเป็นคนใหญ่คนโต ดังนั้นมันจะเป็นไปได้เหรอ
「เอ๋ เป็นไปได้ด้วยเหรอที่คุณจะสร้างกิดล์ขึ้นมาใหม่น่ะ? ผมจำได้ว่าคุณไม่เคยมีประสบการณ์ในการเป็นนักผจญภัยด้วยซ้ำนะ」
「คืองี้ ลองคิดดูสิว่าหากเซเรสกลับมาที่หมู่บ้านนี้ในสักวันหนึ่ง ยังไงมันก็ต้องมีกิลด์ไว้รอต้อนรับเขาใช่ไหมล่ะ」
「ก็จริงอยู่...แต่ว่าแค่นั้นมันได้ด้วยเหรอ」
「พอเขียนคำร้องไปว่า 『เพื่อเซเรส』ไปในคำร้องด้วย ทางนั้นก็ตอบตกลงกลับมาภายใน 1 สัปดาห์เลยนะเอ้อ...ทั้งที่ปกติต้องรอเป็นปีแท้ๆ」
มันจะไปรอดไหมเนี่ยกิลด์แบบนี้
พอมีคำร้องว่าอย่างสร้างกิดล์นักผจญภัยในเมืองของวีรบุรุษเซเรส
มันคงไม่แปลกมั้งเพราะที่เกี่ยวกับเซเรสมันสร้างแรงกดดันได้ทั่วทั้งโลกจริงๆ อีกฝ่ายก็คงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำทันที
「แบบนี้นี่เอง…」
「อ้าวว่าไง ลูกค้าเหรอ?」
「อ้าวๆ เธอก็รู้จักเขาไม่ใช่หรือไง? นี่ไงอดีตผู้กล้าแซ็ค」
「แซ็คผู้กล้าหาญคนนั้นนี่เอง! ยินดีที่ได้เจอนะ ฉันเอเลนอร์ เป็นรองกิลด์มาสเตอร์แล้วก็เป็นภรรยาของไคโตะ....ฝากตัวด้วยนะ!」
「เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักครับ!」
จากที่เห็นพวกเขานี่อายุห่างกันรุ่นพ่อลูกเลยนะ
แต่ไม่รู้ทำไมรู้สึกว่ามันแตกต่างจากปกตินิดหน่อย
『เล่นกันเองในครอบครัว』
คำนี้มันโผล่ขึ้นมาในหัวของฉัน
ก็จริงว่ามีคู่แต่งงานหลายคู่ที่มีอายุแตกต่างกัน...อย่างเซเรสกับแม่ของฉัน คือมันก็ไม่ได้คิดอะไปมากกว่านั้น
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างพอฉันเห็นลุงไคโตะกับเอเลนอร์ซังแล้วคำนี้มันโผล่ขึ้นมาในหัว
เหตุผลก็คือ...เอเลนอร์กับเมลเหมือนกันอย่างกับแกะ
ก็จริงว่าเอเลนอร์ซังมีผิวสีแทนส่วนเมลมีผิวสีขาว....มองดูยังไงก็ไม่น่าจะเหมือนกันได้
แต่สำหรับฉันที่อยู่กับเมลมาตั้งแต่เด็ก
หากเมลได้ลองทาผิวสีแทนทับผิวสีขาวของเธอแล้วเปลี่ยนทรงผมเสียหน่อย ฉันมองว่ายังไงก็เหมือนกันชัดๆ
คิดในแง่ดีบางทีคุงไคโตะอาจจะไม่รู้ก็ได้
แถมไม่มีความจำเป็นต้องทำให้เรื่องมันใหญ่โตอีก
「แล้ววันนี้ท่านแซ็คมีอะไรให้พวกเรารับใช้กันนะ?」
หน้าสีของไคโตะเปลี่ยนไปเป็นโหมดทำงาน
「คือ..ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอก....เพราะไม่ได้มาที่นี่นานแล้วก็เลยแวะไปดูนั่นนี่เฉยๆน่ะ」
「แบบนี้นี่เอง นั่นสินะตั้งแต่พวกปีศาจประกาศสงบศึก แถวนี้ก็ไม่เหลืออะไรให้ล่านอกจากก็อบลินด้วยสิ คงไม่เหลืองานอะไรที่สมกับเป็นนักผจญภัยนักหรอก」
พอดูพวกกระดาษคำขอที่ติดอยู่บนผนังก็ล้วนเกี่ยวข้องกับการขอให้ช่วยไปกำจัดแมลง หมู่ป่า....ซึ่งเอาจริงๆของพวกนี้พรานหรือชาวนาก็ทำได้
「ถึงเป็นแบบนั้นก็ยังอยู่กันไหวเหรอครับ?」
「ก็รู้นี่ว่าของแถวนี้มันถูกจะตายใช่ชีวิตได้ง่ายออก...นายเองก็เป็นคนของหมู่บ้านไม่ใช่หรือไง? แค่ 5 เหรียญเงิน(5หมื่นเยน)ก็สามารถใช้ชีวิตได้สบายๆแล้ว....หรือเพราะเข้าเมืองใหญ่นานก็เลยลืมไปหมดแล้วกัน?」
ก็นั่นสินะพวกของเพาะปลูกอะไรก็เก็บมากินกันเอง แถมคนที่นี่ก็คอยช่วยเหลือกันและกัน
「 นั่นสินะ」
「ถึงนายจะไม่สามารถหาเงินได้เป็นถุงถังแบบเมื่อก่อน แต่เมืองนี้มันก็เหมาะกับการพักผ่อนสำหรับผู้ที่เหนื่อยล้าจากการต่อสู้แล้วหันหาชีวิตสงบๆนะ แรงค์ S อย่างนายแค่ไปล่าหมีกับหมู่ป่ามาให้ได้สัก 3 เหรียญทองต่อเดือนก็ใช้ชีวิตได้สบายแล้ว...ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ」
「ไว้ผมจะลองไปคิดดูนะครับ」
「โอ้ ตามสบายเลย ยังไงนายก็เหนื่อยมามากนี่นะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปละกัน」
「ครับ...ก็ว่าจะลองอยู่เฉยๆไปสักพักแล้วคิดอะไรหลายๆอย่างดู」
「ได้ๆ...ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาปรึกษาฉันได้ตามสะดวกเลย」
จากนั้นฉันก็โบกมือลาให้กับคนในกิลด์
บ้านเกิดของฉันมันเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ....จนถึงขั้นมีโรงแรมขนาดเล็กมาตั้งแล้ว
หลังจากดื่มเอลที่บาร์เสร็จ ฉันก็มุ่งหน้าไปยังโรมแรมต่อ