หน้าหลัก > เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย) > ตอนที่ 88

ตอนที่ 88 - 【เรื่องราวแยก】 สถานที่ที่ฉันไม่คู่ควร

เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย)

ตอนที่ 88 【เรื่องราวแยก】 สถานที่ที่ฉันไม่คู่ควร

ระหว่างที่ฉันกำลังไปที่กิลด์ ก็เห็นป้ายประกาศขนาดใหญ่แปะเอาไว้อยู่

『ประกาศการสงบศึกของจอมมาร』

อะไรกัน...

เมื่อฉันอ่านมัน เนื่อหาภายในก็คือมีการลงนามข้อตกลงสงบศึกระหว่างปีศาจและมนุษย์

นั่นจึงส่งผลให้พวกฉัน...ไม่สามารถล่ามอนสเตอร์ที่สามารถคุยสื่อสารได้อีก

ก็คงต้องเป็นแบบนั้น

ถึงแม้พวกก็อบลินและออร์คจะยังสามารถล่าทำเงินได้เหมือนเดิม

แต่ถ้าพวกฉันไปฆ่าปีศาจหรือมอนสเตอร์ที่มีความสามารถในการสื่อสารกับมนุษย์ ทางกิลด์จะไม่สามารถขึ้นเงินให้ได้

นอกจากนี้ยังบอกให้พูดคุยทักทายกันได้อีก

เพื่อเป็นหลักฐานการเข้าใจกันของทั้งสองฝ่าย...

『มันจบแล้วสินะ』

ผลของมันส่งผลให้มูลค่าของเหล่านักผจญภัยระดับสูงแทบจะหายไปด้วย

ฉันยังล่าโอเกอร์ได้สินะ?

นั่นคือขอบเขตของพวกนักผจญภัยจะสามารถทำเงินได้สูงสุดในขณะนี้

ในขณะเดียวกันมันก็หมายความว่าโอกาสที่พวกเขาจะสามารถทำเงินก้อนโตมากกว่านี้ก็ต้องหายไป

ปัญหาก็เลยเกิดขึ้น

ทางกิลด์และนักผจญภัยก็โต้เถียงกัน

「ทำไมการล่าออร์คคิงกับออร์คเจเนรัลถึงไม่ได้อะไรเลยล่ะ」

「เพราะพวกมันทั้ง 2 ประเภทเป็นมอนสเตอร์ที่สามารถพูดคุยได้ยังไงล่ะ」

「ก็จริงอยู่ แต่จะให้ปล่อยไปเฉยๆงั้นเหรอ พวกมันเป็นมอนสเตอร์นะ」

「เห้อ~คุณไม่สามารถไปโจมตีพวกมันได้หากพวกมันไม่มาร้ายคุณก่อนนะ...ดังนั้นเรื่องการถูกลดขั้นก็...」

「ไม่จริงน่า…」

「กาลเวลามันได้เปลี่ยนไปแล้ว...นอกจากนี้พวกปีศาจและมอนสเตอร์ระดับสูงก็เหมือนจะเริ่มอพยพไปยังดินแดนของจอมมารแล้วด้วย....พวกคุณที่ยังฝืนล่าพวกที่อพยพอยู่ ก็ระวังบทลงโทษด้วยล่ะ」

「โถ่เอ้ย」

นี่แหละคือสิ่งที่เกิดขึ้น

ยุคทองของเหล่านักผจญภัยได้จบลงแล้ว

ถึงจะเป็นต่อก็ไม่สามารถทำเงินได้มากเหมือนเดิม

ถ้าจะให้เหลือ...สิ่งเดียวที่จะพอทำเงินได้เยอะก็คงเป็นพวกมังกร

เพราะพวกมอนสเตอร์ฝ่ายปีศาจที่ระดับสูงกว่าโอเกอร์ไม่สามารถล่าได้แล้ว....หากจะให้หาอะไรใกล้เคียงก็คงต้องพวกไวเวิร์น

แต่จะมีสักกี่คนกันที่สามารถล่าไวเวิร์ฯได้

ฉันก็เลยบอกว่านี่แหละคือจุดจบของยุคทองแห่งนักผจญภัย

ส่วนตัวฉันก็พอจะสู้กับไวเวิร์นแล้วก็มังกรดินได้อยู่หรอก

แต่นั่นก็อาจจะเป็นการฝืนตัวเองไปหน่อยๆ...นอกจากนี้เงินก็พอเหลืออยู่ด้วย

ดังนั้น ควรกลับไปที่หมู่บ้านจิมน่าก่อนดีไหมนะ

ถ้าตอนนี้แม่อยู่ที่เมืองหลวงก็หมายความว่าพ่อคงจะอยู่ที่หมู่บ้าน

เอาเป็นว่าก็กลับไปพักที่หมู่บ้านให้หัวเย็นๆก่อนแล้วค่อยคิดอะไรต่อละกัน

จากนั้นฉันก็เดินทางกลับไปที่หมู่บ้านจิมน่า

◆◆◆

พอกลับมาถึงหมู่บ้านก็ต้องตกใจ...นี่มันอะไรกัน!

แทนที่จะเรียกว่าหมู่บ้าน ตอนนี้ควรจะเรียกมันว่าเมืองมากกว่า

พวกทหารยามหน้าเมืองก็พูดขึ้น

「ยินดีต้อนรับ! สู่เมืองแห่งวีรบุรุษเซเรส! ยินดีต้อนรับสู่เมืองจิมน่า」

เมืองจิมน่า?

ที่นี่ต้องเป็นหมู่บ้านไม่ใช่เหรอ

ฉันได้เดินเข้าไปในสถานที่คิดว่าควรจะเป็นหมู่บ้านจิมนา

พอเข้าไปแล้วก็ต้องพบว่ามันค่อนข้างเปลี่ยนไปมาก

ถนนที่เคยเป็นพื้นดินเปล่าก็ได้รับการปูเป็นอย่างดี สะพานข้ามแม่น้ำก็ถูกสร้างขึ้นด้วยอิฐมีคุณภาพ

อาคารส่วนใหญ่ก็ทำมาจากไม้ชั้นดี บ้านส่วนมากก็กลายเป็นบ้านอิฐสองชั้นไปแล้ว

นี่มันไม่ใช่หมู่บ้านอีกต่อไปแล้ว มันคือเมืองใหญ่ใจกลางชนบท

ยิ่งไปกว่านั้น ทางร้านค้าจำนวนมากและกิลด์นักผจญภัยก็ด้วย

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน...ชื่อถนนก็มีติดไว้ว่าถนนเซเรส สะพานก็เป็นสะพานเซเรส

ใจกลางเมืองก็มีน้ำพุที่สร้างรูปปั้นของเซเรสประดับอยู่

ฉันรีบพุ่งตรงกลับไปยังบ้านทันที

แต่ระหว่างทางก็พบกับผู้ใหญ่บ้านเสียก่อน

「หือ...แซ็ค...นั่นแซ็คไม่ใช่หรือไงกัน?」

「ผู้ใหญ่บ้านนาจิม...ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ...แล้วคนข้างๆนั่น?」

「อ้อเมียข้าเอง...เป็นไงอิจฉาล่ะสิ」

ไม่เห็นน่าอิจฉาเลยสักนิด...เดี๋ยวนะ เอลฟ์ไม่ใช่เหรอ?

「นั่นมันเอลฟ์ไม่ใช่เหรอ!」

「ก็ใช่น่ะสิ ภรรยาของข้าเป็นเอลฟ์ กำลังหวานๆกันเลยโฮ่ๆ」

ผู้ใหญ่บ้านนาจิมพูดก่อนจะจับมือของเธอและหัวเราะออกมา

เอลฟ์สาวที่อยู่ข้างๆก็แสดงท่าทางเขินอายออกมา

「พอดีพวกข้าจะไปดื่มชากันที่ร้านกาแฟน่ะ...ไว้เจอกันใหม่นะ」

เมื่อฉันมองไปยังผู้ใหญ่บ้านนาจิมขณะที่พูดจบ เขาก็ควงแขนเอลฟ์ไปที่ร้านกาแฟพร้อมกับเสียงหัวเราะ

ถึงจะเป็นผู้ใหญ่บ้านก็เถอะ แต่เขาไม่น่าจะรวยพอซื้อเอลฟ์ได้แน่ๆ

เอาตามตรง...น่าอิจฉาจริงๆนั่นแหละ

หากต้องเอาเอลฟ์ไปเทียบกับ 3 สาวเพื่อนสมัยเด็กของฉันแล้ว ไม่สิขนาดเจ้าหญิงมารินก็ไม่น่าสู้ไหว....

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ

พอฉันกลับมาถึงบ้าน

「ก็ว่าใครแซ็คนี่เอง ได้ยินว่าเลิกเป็นผู้กล้าแล้วสินะ?」

「เฮ้อ ก็ตามนั้นแหละพ่อ พอได้เจอกับหนึ่งในสี่ราชาแห่งสวรรค์เข้า มันไม่ไหวจริงๆ…」

「งั้นเหรอ...น่าเสียดายจริงๆ...แล้วลูกจะเอายังไงต่อล่ะ?」

「ก็ว่าจะอยู่ที่หมู่บ้านนี้ไปอีกสักพักน่ะ...แล้วค่อยกลับไปหางานนักผจญภัยทำอีกรอบ....ว่าแต่ผู้หญิงข้างๆพ่อนั่นใครเหรอ?」

「อ๋อ ในอดีตพ่อก็เคยทำเรื่องเลวร้ายกับชิซุโกะเอาไว้มาก...แต่เพราะเซเรสได้ช่วยเหลือเธอว่า...จากนั้นมันก็เลยเกิดอะไรหลายๆอย่างขึ้น...สุดท้ายพ่อก็ได้แต่งงานใหม่กับเธอคนนี้แหละ」

「เด็กคนนี้...ดูยังไงก็เด็กกว่าผมเยอะเลยนะ...」

「เป็นไงน่ารักใช่ไหมล่ะ?」

「ชิวะค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ」

เด็กสาวที่เรียกตัวเองว่าชิวะทักทายฉัน เห็นได้ชัดเลยว่าท้องของเธอป่องอยู่

「เอ่อ...พ่อเด็กคนนั้นเขา...」

「อื้อ เธอกำลังท้องอยู่น่ะ....พ่อไม่ว่าอะไรหรอกที่ลูกจะมาอยู่ที่นี่ ยังไงลูกก็ลูกพ่อนะเอ้อ แต่อย่างน้อยก็รีบๆพักผ่อนแล้วกลับไปให้เร็วที่สุดจะได้ไหม?」

พอเห็นพ่อของฉันกำลังเอามือลูบท้องของเด็กผู้หญิงที่ชื่อชิวะ ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าตรงนี้มันไม่ใช่ที่ของฉันอีกแล้ว