หน้าหลัก > เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย) > ตอนที่ 86

ตอนที่ 86 - หากมีแค่ดาบ…ยังไงก็ไม่ไหวจริงๆ

เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย)

ตอนที่ 86 หากมีแค่ดาบ…ยังไงก็ไม่ไหวจริงๆ

หนึ่งเดือนผ่านไป นับตั้งแต่ประกาศสงบศึกกับฝ่ายปีศาจ

มาเรียเลือกจะไปเปิดคลินิกโดยมีชิซุโกะกับเซซิเลียคอยดูแล

ก็เคยคิดอยู่หรอกว่ามาเรียน่าจะดำเนินธุรกิจไปได้ด้วยดีแต่ว่า...

เหมือนจะไม่เป็นแบบนั้น

นักบุญมีความสามารถในการใช้เวทรักษาที่ยอดเยี่ม

เธอคือคนที่ต้องช่วยเหลือผู้กล้าในการกำจัดจอมมาร

หากเป็นเรื่องการรักษาแล้วไม่มีใครจะเก่งไปกว่าเธอ

หากเธอวางแผนจะเป็นฮิลเลอร์ เธอก็จะเป็นสุดยอดฮีลเลอร์

พลังของฮีลเลอร์ทั่วไปไม่สามารถเทียบกับมาเรียได้เลย

ดังนั้นหากฮีลเลอร์ธรรมดายังสามารถเป็นคลินิกได้...มีหรือนักบุญมาเรียจะไม่สามารถเปิดได้?

「คือตอนเปิดคลินิคมันก็ง่ายอยู่หรอกจ๊ะเซเรสคุง แต่หลังจากเปิดนี่สิที่เป็นปัญหา」

「นั่นสินะตอนเปิดมันก็ดีหรอก แต่หลังจากนั้นนี่สิ...」

เพราะหากมีคนได้ยินว่าอดีตนักบุญมาเปิดคลินิกก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนไข้จะเข้ามามากขนาดไหน

แต่ก็เพราะเรื่องนั้นจึงทำให้คลินิกรอบๆ ได้รับผลกระทบไปด้วย

เพื่อทำการชดเชยความเสียหายของพวกเขา พวกเธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากขึ้นราคาค่ารักษาให้สูงขึ้นและเลือกรักษาแต่เคสที่ฮีลเลอร์คนอื่นจัดการไม่ไหวแทน ไม่ก็ต้องไปเปิดคลินิกแถวบ้านนอกที่ไม่มีฮีลเลอร์อยู่

มาเรียในตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาแบบนั้นอยู่

ส่วนเมลก็กำลังทำการศึกษาภายใต้การดูแลของซาโยะและมาเรี่ยนเรื่องงานวิชาการและธุรการ

ดูเหมือนเมลจะตัดสินใจเป็นคนจัดการงานเอกสารของคลินิกมาเรีย

เพราะการรักษาบางอย่างก็จำเป็นต้องใช้พลังเวทย์อยู่บ้าง

นอกจากนี้เพื่อให้มาเรียสามารถทำการรักษาได้อย่างเต็มที่เธอก็เลยจะมาช่วยในส่วนงานเอกสารแทน

พวกเธอทั้งสองที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กกันคงเข้ากันได้เป็นอย่างดีแน่

「นี่เซเรส....นายสามารถช่วยเรื่องการเงินฉันสัก 200 เหรียญทองได้ไหม」

「เซเรสไม่ใช่แค่มาเรียนะ ทางฉันก็ด้วยขอร้องล่ะ…」

ตอนนี้ฉันคือพ่อของพวกเธอ

หากเพื่อทำให้พวกเธอยืนได้ด้วยตัวเองนับจากนี้ การสนับสนุนด้วยเงินก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่อะไร

「เข้าใจแล้ว ถ้าหากแค่นั้นละก็...」

「เซเรสคุง เมื่อกำลังจะพูดอะไรออกมากันจ๊ะ」

「เซเรสซัง...ทำแบบนั้นได้ได้นะคะ หากให้ยืมก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่การให้เปล่านี่ไม่ได้เด็ดขาด」

「…งะ-งั้นเหรอ」

ไว้เดี๋ยวฉันค่อยแอบเอาไปให้พวกเธอทีหลังแล้วกัน

ตราบใดที่พวกเธอกำลังพยายามอย่างหนักเพื่ออนาคตของตัวเอง แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกน่า

สายตาของพวกซิซุโกะซังที่จ้องมองมาทางฉันมันช่าง....เอาเถอะ...

◆◆◆

แต่ปัญหาที่เหลือก็คือ

「ลิดา อยากจะไปตกปลาด้วยกันไหม?」

「ไปกับเซเรสเหรอ...ได้สิ」

ฉันได้พาลิดาออกไปข้างนอก

ปัญหาที่เหลืออยู่ก็คือลิดานี่แหละ

ในฐานะนักบุญดาบแล้วเธอไม่มีประโยชน์ในด้านอื่นเลย

เธอคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในด้านการต่อรู้รองจากผู้กล้า

แต่ถ้าไม่สู้ก็ไม่เหลือประโยชน์อะไรเลย

พวกเราได้เดินไปที่หนองน้ำเล็กๆใกล้เมืองหลวง

ฉันตั้งเป้าไว้ว่าจะเปิดอกคุยกับเธอระหว่างตกปลานี่แหละ

ลิดานั้นมีด้านที่เหมือนกับเด็กผู้ชายมาตั้งแต่เด็กแล้ว

นั่นก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไปจับแมลงและตกปลาด้วยกันกับฉันแล้วก็แซ็ค

มาเรียกับเมลไม่ได้ชอบพวกแมลง แล้วก็คงไม่คิดจะมาตกปลาด้วย ดังนั้นนี่จึงเป็นสถานการณ์ที่สมบูรณ์แบบ

ถึงจะบอกว่ามาตกปลาแต่ก็แค่เหวี่ยงเบ็ดออกไปเฉยๆ

จะได้ปลาหรือไม่ ไม่สำคัญหรอก

「นี่ลิดา...พักนี้เจอสิ่งที่อยากทำบ้างหรือยัง?」

「ว่าแล้วเชียว ว่าต้องเป็นเรื่องนี้~เซเรสนายกำลังจี้ฉันอยู่นะ」

พูดถึงลิดา เธอก็ชอบแกว่งดาบไม้เล่นไปมาตั้งแต่เด็ก

พอเธอกลายมาเป็นนักบุญดาบแล้วเธอก็ฝึนฝนแต่ด้านนี้เพียงเท่านั้น

ต่างกับมาเรียและเมลที่หากอยู่ในช่วงพักจากการฝึกเวท พวกเธอก็จะไปหาอะไรที่เด็กผู้หญิงชอบทำกัน ลิดานั้นเอาแต่แกว่งดาบ

หากเป็นชาติที่แล้วก็คงจะพูดว่าเอาดีด้านอื่นไม่ได้เลย

「เธอไม่อยากจะต่อสู้แล้วใช่ไหมล่ะ?」

「อื้ม...ฉันเหนื่อยกับมันมามากพอแล้ว...ทำไมฉันถึงต้องเป็นนักบุญดาบกันนะ? ทำไมฉันถึงไม่ได้อาชีพอื่นกัน」

「แล้วอยากจะได้อาชีพอะไรแทนล่ะ?」

ตอนนี้สิ่งที่ลิดาทำก็คือการไปช่วยงานร้านพี่คาซึมะเป็นครั้งคราว

เธอไม่ได้มีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษในอนาคต แตกต่างจากมาเรียและเมล

「ไม่รู้สิ ฉันไม่เคยทำอย่างอื่นนอกจากแกว่งดาบ...แต่พอได้เผชิญหน้ากับมังกรแล้วก็แมมมอน ฉันก็รู้สึกกลัวจนไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้ว....ถึงจะเป็นแบบนั้นหากไม่ใช่ดาบ...ฉันก็ไม่รู้จริงๆว่าควรจะทำอะไร....ฉันจะทำยังไงดีเซเรส?」

วิธีการที่พูดเหมือนเด็กน้อยของเธอ...มันคือนิสัยที่เธอจะแสดงให้เห็นเมื่อเธอเผชิญหน้ากับปัญหาที่เกินแก้ด้วยตัวเอง

「ฉันเข้าใจดีว่านั่นคือสิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุด....งั้นก็คงต้องเปลี่ยนรูปแบบนิดหน่อย...เอาแบบนี้เป็นไง ถ้าสู้กับมอนสเตอร์ไม่ได้อีกแล้ว ก็ลองเปลี่ยนเป็นมนุษย์ดูสิ หากเธอสามารถสังหารมนุษย์ได้เธอก็เป็นอัศวินในเมืองหลวงได้นะหรือจะองครักษ์ก็ได้ ทหารก็ดี ว่าไงล่ะ?」

「...ก็จริงอยู่ว่าถ้าเป็นคนคงพอไหว แต่ว่า....」

เธอลังเลที่จะพูดต่อ...จากที่ฉันเดาเธอคงจะลังเลว่าตัวเองจะทำไหวจริงๆไหมแน่นอน

「งั้นเปลี่ยนวิธีถามหน่อยละกัน ลิดา ถ้าตัดเรื่องงานที่ต้องทำออกไปเลย มีอะไรที่เธออยากจะทำบ้างไหม?」

「ก็...ไม่รู้สิ」

「เข้าใจแล้ว...ไม่เป็นไรหรอก เธอสามารถใช้เวลาได้อย่างเต็มที่เลย...ไม่สำคัญว่าจะนานสักแค่ไหน หากได้ลองอะไรดูแล้วไม่ชอบก็เลิกได้เลย จะใช้เวลา 1 ปี หรือ 2 ปี หรือจะนานกว่านั้นก็ได้ เอาตามใจที่เธออยากเถอะ」

「เซเรส...นายจะโอเคเหรอ」

「แน่นอนสิ...เพราะไม่มีอะไรน่าเบื่อไปกว่าการใช้ชีวิตอยู่กับงานที่ไม่ชอบอยู่แล้ว」

「นี่ เซเรส....นายเป็นเพื่อนสมัยเด็กของฉันจริงๆใช่ไหมเนี่ย...บอกตามตรงนะว่านายน่ะใจดีกว่าพ่อของฉันอีก」

「พูดอะไรกัน...ก็ตอนนี้ฉันเป็นพ่อของเธอแล้วนะ?」

「งั้นเหรอ....ถ้างั้นฉันขอผ่อนคลายแล้วค่อยๆคิดคงไม่เป็นไรสินะ?」

「ไม่เป็นไรหรอก...」

แต่สุดสุดท้ายแล้ว หากมีแค่ดาบ…ยังไงก็ไม่ไหวจริงๆ