หน้าหลัก > เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย) > ตอนที่ 72

ตอนที่ 72 - ปะทะแมมมอน - ความสิ้นหวัง

เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย)


ตอนที่ 72 ปะทะแมมมอน - ความสิ้นหวัง


 


 


โดมินิก เมืองแห่งป้อมปราการ


 


แมมมอนได้รออยู่ที่นั่น


 


ฉันได้ขี่ไวเวิร์นเพื่อบินตรงไปยังสถานที่นั้น


 


 


ช่างเป็นเรื่องที่น่าแปลก บางทีอาจจะเป็นเพราะคำสาปของมังกรดำ เลยทำให้ไวเวิร์นเองก็คุยกันรู้เรื่อง


 


 


แต่ในทางกลับกัน ฉันก็ไม่สามารถล่าพวกตระกูลมังกรได้อีกแล้ว


 


 


จะให้เรียกไวเวิร์นเฉยๆมันก็ยังไงอยู่ ฉันก็เลยตัดสินใจเรียกมันว่าไวแกน


 


 


ตอนแรกก็ว่าจะเรียกแกรูส แต่อันนี้ดูน่ารักกว่า


 


 


พอเห็นมันทำตัวน่ารักแบบนี้ด้วยแล้ว ชวนให้นึกถึงพวกหมาแมวด้วยสิ


 


 


 


ก็ต้องขอบคุณมันจริงๆที่ทำให้ฉันเดินทางมาถึงโดมินิกโดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวัน


 


 


ต้องรีบทำการโจมตีจากบนฟ้า...โดยไม่ให้แมมมอนสังเกตเห็น


 


 


 


ทว่ามันดันรู้ตัว


 


 


 


「มาแล้วงั้นเหรอ...สมาชิกคนสุดท้ายของปาร์ตี้ผู้กล้า วีรบุรุษเซเรส....ดูแข็งแกร่งสมราคาคุยจริงๆ ข้าคือแมมมอน」


 


 


นี่คือการเข่นฆ่า


 


 


ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อของตัวเอง


 


 


 


ฉันหยิบปืนซึ่งบรรจุกระสุนหนึ่งนัดขึ้นมาจากประเป๋าแล้วยิงใส่แมมมอนทันที


 


 


เป้าหมายของดวงตาของมัน...โดยกระสุนที่ใช้เป็นของที่ได้มาจากโป๊ป


 


 


กระสุนเงินพิเศษที่ทางโป๊ปเป็นผู้ชำระล้างให้บริสุทธิ์...ด้วยสิ่งนี้ฉันมั่นใจว่าสามารถจัดการกับดวงตาของมันได้


 


 


 


 


 


「หืม~『กระสุนเงินศักดิ์สิทธิ์』คิดจะใช้มันกับข้าสินะ?」


 


 


ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงคิดว่ามันจะใช้ได้ผลกับแมมมอน แต่อีกฝ่ายก็รับมือด้วยการหลับตาลง


 


 


กระสุนไม่สามารถทะลวงเปลือกตาของมันได้


 


 


 


「อย่างที่คิด」


 


 


「พอเห็นเจ้าแล้วมันชวนให้ข้านึกถึงเรื่องเมื่อ 800 ปีก่อนจริงๆ ถึงจะเป็นชายที่ไม่รู้นามแต่เขาก็ยิงข้าแบบเดียวกับเจ้าเลย....ถึงครั้งแรกมันจะได้ผลกับข้าจนทำให้ต้องเสียดวงตาไป...แต่มันไม่มีครั้งที่ 2 หรอกนะ」


 


 


 


「เซเรส...หนีไปซะ」


 


 


 


「「「เซเรสหนีไป」」」


 


 


สภาพพวกเขาแย่กว่าที่คิด...แขนขาของพวกเขาขาดวิ่น...แถมการรักษาประคองชีวิตที่แมมมอนมันทำก็ดันทำแบบลวกๆ หากปล่อยไว้พวกเขาคงไม่สามารถใช้มันได้อีกตลอดชีวิตแน่


 


 


 


「แมมมอนก็รู้นะว่าแกแข็งแกร่ง....จนสามารถเอาชนะเจ้าพวกนั้นได้อย่างง่ายดาย...แต่ไม่เห็นจำเป็นจะต้องทำถึงขนาดนั้นเลยนี่...ทำไมกันล่ะ」


 


 


「เจ้ากำลังจะพูดะไร? พวกมนุษย์เองก็ฆ่าก็อบลิน ออร์คและโอเกอร์ไม่ใช่หรือ...มันจะต่างกันตรงไหน...ข้าไม่ชอบพวกมนุษย์ก็เลยฆ่ามัน ก็เท่านั้นเอง」


 


 


ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ตอนนี้ต้องรีบสร้างช่องว่าง


 


แค่วิเดียวก็ยังดี...ฉันต้องสร้างโอกาสนั้นขึ้นมา


 


 


 


 


「งั้นเหรอ...คงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ」


 


 


 


「เอาสิจะทำอะไรก็ทำ...ตอนนี้ข้าพร้อมแล้ว เข้ามาได้เลย」


 


 


เอาละ...จังหวะนี้แหละ


 


 


ฉันใช้มือขวาของตัวเองดึงค้อนออกมาจากที่เก็บของแล้วเหวี่ยงมันไปยังเขาของแมมมอน


 


 


เขาคือสัญลักษณ์ของพวกปีศาจและแหล่งพลังเวท...หากเสียมันไปละก็เรื่องใหญ่แน่


 


 


แถมมันไม่ใช่ค้อนธรรมดา


 


 


เพราะมันคืออาวุธที่เหนือกว่าดาบศักดิ์สิทธิ์...นั่นคือสิ่งที่ฉันค้นพบ มันคือค้อนที่ใช้ในการตีดาบศักดิ์สิทธิ์


 


 


ตามที่คาด แมมมอนได้ได้คิดจะหลบมัน


 


 


 


 


「ด้วยสิ่งนี้ เขาของแมมมอนจะต้อง...หือ」


 


 


「โฮ่ ค้อนแห่งดาบศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ ชวนให้ข้านึกถึงรูปแบบการต่อสู้ของชายผู้นั้นจริงๆ แต่เปล่าประโยชน์ตั้งแต่ที่ข้าเสียเขาไปข้างหนึ่งเพราะชายคนนั้น ข้าก็หาทางรับมือเอาไว้แล้ว มันไม่ได้ผลหรอก」


 


 


แมมมอนพูดกับฉันก่อนจะเดินเข้ามากระชากมือขวาของฉันไปพร้อมกับค้อน


 


 


ไม่เป็นไรนี่ยังอยู่ในการคำนวณ


 


 


 


ก่อนจะเริ่มสู้ฉันได้ดื่มโพชั่นยาสลบไว้ก่อนแล้ว


 


ฉันไม่รู้ว่าจากนี้จะต้องเผชิญกับอะไรอีก


 


ฉันไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วผลจะจบลงแบบไหย


 


สุดท้ายก็มีแต่ต้องสู้


 


 


 


「จะหนีตอนนี้ก็ยังไม่สายนะ」


 


 


 


「ยังไงพวกเราก็ไม่มีทางรอดอยู่แล้ว ถึงจะเป็นแค่นายคนเดียว แต่หนีไปเถอะー-」


 


 


 


「หนีไป เซเรส」


 


 


 


「หนีไปเถอะ…」


 


 


「ฉันมีอะไรจะบอกพวกนายหน่อย...ฉันน่ะได้แต่งงานกับชิซุโกะซังแล้วนะ ไม่ใช่แค่นั้นพี่ฮารุกะ ซาโยะซัง มิซากิซัง ทุกคนเป็นภรรยาของฉันหมดแล้ว」


 


 


 


 


「เดี๋ยว เซเรส นายพูดอะไรออกมา่ะ?」


 


 


 


「กับแม่น่ะเหรอ?」


 


 


 


「โกหกน่า」


 


 


 


「นี่นายเสียสติไปแล้วเหรอ?」


 


「ชิซุโกะซังถามขายไปเป็นทาส ฉันก็เลยไปไถ่ตัวเธอมา....อีกสามคนก็ไม่ต่างอะไรกันนักหรอก....ขอโทษนะที่มาบอกเอาป่านนี้...ในฐานะเพื่อนแล้วเลวสุดๆเลยใช่ไหมล่ะ? แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ฉันตัดสินใจไปแล้ว」


 


 


「ฉันไม่เข้าใจว่านายต้องการจะบอกอะไรกันแน่」


 


 


 


「โกหกสินะ เซเรส…」


 


 


 


「นายกำลังคิดอะไรอยู่! อายุของพวกนายห่างกันเกือบเท่าตัวเลยนะ」


 


 


 


「กับแม่น่ะเหรอ โกหกน่าเซเรส」


 


 


 


「ในเมือฉันตัดสินใจไปแล้ว ตอนนี้ฉันก็ไม่ต่างอะไรกับพ่อของพวกนายหรอก! แล้วมันจะไปมีพ่อคนไหนบนโลกที่ทอดทิ้งลูกของพวกเขากันล่ะ」


 


 


ถ้าไม่นับไอ้ลุงเซกเตอร์อ่ะนะ


 


 


「ดังนั้นฉันจะไม่หนี...พวกนายก็คอยดูอยู่เงียบๆซะ」


 


 


 


「「「「เซเรส」」」」


 


 


 


「ร่ำลากันเสร็จแล้วงั้นหรือ...งั้นก็มีทำให้มันจบเลยดีกว่า」


 


 


ตอนนี้ฉันยังเหลือของไว้ใช้อีกอย่างหนึ่ง


 


 


มันคือสิ่งที่ถูกเรียกว่ายาหลอนประสาท


 


 


 


พวกปีศาจเพศเมียมักจะชอบใช้มัน


 


 


 


ไอ้นี่น่าจะพอช่วยให้ลุยได้อีกสักตั้ง


 


 


 


「ลุยกันเลย」


 


ฉันวิ่งออกไปโดยถือค้อนเอาไว้ในมือซ้ายและฟาดไปที่ร่างของแมมอนอีกครั้ง


 


 


 


「เปล่าประโยชน์ๆๆ ร่างกายของข้าที่แม้แต่มิธริลก็ยังทำอะไรไม่ได้ ของแค่นี้น่ะไม่เป็นผลหรอก」


 


 


ไม่ว่าตีทุบไปสักกี่ครั้งก็ไม่ได้ผล...แต่มือของฉันก็ไม่ได้หยุดลง


 


 


 


「ย๊าๆ」


 


 


 


「ได้แค่นี้เองงั้นเหรอ? ตายเสีย」


 


 


ทันใดนั้นเอง มือซ้ายของผมก็ถูกกระชากออกไป


 


 


ผมสูญเสียมือไปทั้ง 2 ข้างแล้ว


 


 


 


「เหยียบเวหา」


 


 


ฉันกระโดดหนีขึ้นไปบนท้องฟ้า


 


 


 


「จะหนีไปไหน」


 


 


แมมมอนกระโดดตามขึ้นมา


 


 


 


『แกร่งเกินไป』


 


 


ดูเหมือนซี่โครงฉันก็จะหักไปหลายซี่เลย


 


 


จากนั้นก็ลองใช้ขาในการโจมตี แต่เหมือนจะไม่เป็นผล


 


 


ขนาดขาที่ทำมาจากมิธริลยังไม่ได้ผล ขาธรรมดายังไงก็เป็นไปไม่ได้


 


เกือบแล้วเชียว


 


อีกแค่นิดเดียว


 


 


「แกนี่แกร่งสุดๆเลยว่ะ…」


 


 


 


「แน่นอนอยู่แล้ว เพราะข้าคือแมมมอน...ตายซะ!」


 


 


มันจบแล้ว...ฉันหลับตายอมรับมัน


 


ทว่า ฉันกลับยังมีชีวิตอยู่


 


 


 


「กว๊ากกกกก――」


 


ไม่จริง....ไวแกน...นี่บางเป็นโล่กำบังให้ฉันงั้นเหรอ


 


 


 


 


「ให้ตายสิ ไวเวิร์นนี่เกาะกะจริงๆ」


 


 


 


「ไวแกน..ช่วยฉันไว้…」


 


 


ฉันที่ไม่สามารถปกป้องเพื่อนสมัยเด็กเอาไว้ได้...จะชนะก็ยังไม่ไหว


 


 


แต่หมอนี่...กลับยอมตายเพื่อช่วยฉันเอาไว้


 


 


ถ้างั้นฉันก็จะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด


 


อย่างน้อยก็ต้องเล่นมันให้ได้สักครั้งหนึ่ง