หน้าหลัก > เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย) > ตอนที่ 67.1

ตอนที่ 67.1 - [เรื่องสั้น] ตำนานนักล่า - ชื่อดั้งเดิม:อย่าไปยุ่งกับผู้กล้า ลิลี่ - ฝั่งลิลี่ - ตอนที่ 1

เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย)


67 [เรื่องสั้น] ตำนานนักล่า - ชื่อดั้งเดิม:อย่าไปยุ่งกับผู้กล้า ลิลี่ - ฝั่งลิลี่ - ตอนที่ 1




มุมมองของลิลี่




ฉันชื่อลิลี่ ฉันเป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ


 


ฉันมีเด็กผู้ชายที่ฉันรักอยู่


 


เขาอาศัยอยู่ใกล้ๆกันและชื่อของเขาคือรูดี้ เขาเป็นเด็กผู้ชายที่สวยงาม (แบบโชตะ) (น่ารักมาก)


 


ถ้าถามว่าสวยและน่ารักขนาดไหนละก็


 


ผิวของเขาขาวกว่าของฉัน...และดวงตาของเขาก็ใสมาก


 


บอกตามตรงว่า การที่ฉันได้มีเพื่อนสมัยเด็กแบบรูดี้เป็นอะไรที่โชคดีมาก




ถ้ารู้ดี้เกิดในหมู่บ้านที่ใหญ่กว่านี้และมีผู้หญิงมากกว่านี้ เขาคงมีคนมีติดตรึมแน่


 


นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันอยู่ใกล้รูดี้เสมอ เพราะผู้หญิงคนอื่นจะแย่งเขาไปถ้าฉันไม่ทำ 


 


แม้แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ก็ยังมีคู่แข่งอยู่บ้าง แม้ว่าฉันจะได้เปรียบที่สุดเพราะอายุที่ต่างกัน 


 


แต่เมื่อไม่นานมานี้รูดี้ดูไม่ค่อยดีเลย


 


หลังจากรู้จักกันมาหลายปี ทั้งๆที่เกือบจะเป็นแฟนกัน... เขามักจะดูเหงาอยู่เสมอ


 


ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเขาอยู่ที่นั่นเพื่อฉัน แต่เขาไม่ใช่ (ทั้งที่เขาอยู่เคียงข้างฉันเสมอ...แต่กลับรู้สึกเหมือนห่างไกลออกไป ฉันอดไม่ได้จริงๆที่จะรู้สึกเช่นนั้น)


 


รูดี้ดีกับฉันเสมอ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาดูเหมือนกำลังเหงา


 


พอฉันอายุ 12 ปี ฉันบังคับให้เขาสัญญาว่าจะแต่งงานกับฉัน


 


และด้วยเหตุผลบางอย่าง รูดี้ปฏิเสธ แต่ในที่สุด เราก็ได้หมั้นหมายกัน


 


ฉันรู้สึกโล่งใจที่รู้ว่าตอนนี้รูดี้เป็นของฉันแล้ว


 


หลังจากนั้นเราก็มีช่วงเวลาที่ดี


 


แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง รูดี้มักจะดูโดดเดี่ยวกว่าเมื่อก่อน


 


เขาดูเหงาแม้ว่าฉันจะอยู่กับเขา


 


แต่ฉันเดาว่านั่นคือจุดอ่อนของการตกหลุมรักเขา... ฉันอดไม่ได้ที่จะคอยดูด้านเปราะบางของเขา


 


เวลาผ่านไปและเราทั้งคู่อายุ 14 ปี


 


พรุ่งนี้เป็นพิธีบรรลุนิติภาวะของเรา ซึ่งหมายความว่าเราเป็นผู้ใหญ่


 


สิ่งที่ฉันหมายถึงคือวันที่ฉันหมั้นกับรูดี้จะกลายเป็นการแต่งงาน


 


ฉันรอไม่ไหวแล้ว ก็ช่วยไม่ได้หนิ


 


เพราะหลังจากพรุ่งนี้เราสามารถแต่งงานได้ทุกเมื่อที่ต้องการ


 


ฉันแน่ใจว่ารูดี้อายเกินกว่าจะสารภาพ


 


ดังนั้นฉันจะเป็นคนขอแต่งงานเอง!


 


ฉันจะขอแต่งงานพอรูดี้ได้อาชีพและฉันได้อาชีพของฉัน... และฉันตัดสินใจแล้ว


 


สงสัยจังเลยว่าจะได้อาชีพอะไร...ที่อยากเป็นที่สุดคือ 'ช่างเย็บ' เพราะรูดี้มักจะทำเสื้อผ้าของเขาขาด


 


และแล้ววันแห่งโชคชะตาก็มาถึง


 


อาชีพของรูดี้คือการเป็นนักล่า


 




「ยินดีด้วย รูดี้! นายได้งานที่คุณต้องการล่ะ」


 


ฉันรู้ว่ารูดี้อยากได้งานนักล่า แล้วทำไมเขาถึงดูเศร้าจังล่ะ?


 


「อืม ขอบคุณนะ...」


 


ทำไมเขาถึงร้องไห้กันละ?


 




「อืม ขอบคุณนะ...」


 


「ทำไมนายถึงดูไม่ดีใจเลยละรูดี้...? โอ้ บางทีนายอาจจะอยากเป็นอัศวินหรือนักผจญภัยมาตลอดงั้นเหรอ?」




「ไม่หรอก จริงๆแล้วจะเป็นอาชีพอะไรก็ได้ตราบใดที่ฉันได้อยู่เคียงข้างลิลี่!」




ฉันควรทำอย่างไรดี? ฉันหน้าแดง... มันไม่เหมือนฉันเลย... ไม่ยุติธรรมเลยที่มีแค่ฉันที่เขิน




「ฉันเข้าใจแล้ว ฉันอายนิดหน่อย... ขอบคุณนะ!」


 


ในที่สุดก็ถึงตาฉันแล้ว


 


เช่นเดียวกับรูดี้ ฉันเข้าแถวกับอีกห้าคนจากละแวกนั้น


 


ฉันได้กระดาษมาจากบาทหลวงและอธิษฐานกับไม้เท้าของบาทหลวง


 


และทันใดนั้น นางฟ้าก็ลงมา...ตรงมาที่ฉัน


 


ฉันรู้... สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อใครบางคนเป็นนักบุญหรือผู้กล้า


 


ไม่... อย่ามานะ... ถ้าเป็นแบบนี้ฉันคงจะไม่สามารถอยู่เคียงข้างรูดี้ได้อีก


 


ถึงกระนั้น นางฟ้าก็ยื่นมือมาตรงหน้าฉันและกอดฉัน


 


หลังจากนั้นสักครู่เธอก็จากไป


 


ฉันตกตะลึงมาก


 


ทำไม ทำไมต้องเป็นฉันด้วย...


 


◆◆◆


 


「เยี่ยมมาก! งานที่ยอดเยี่ยม! ลิลี่ ไม่สิ อาชีพของท่านลิลี่คือนักบุญ!」


 


「อะไรนะ? นักบุญ?」


 


ฉันถูกห้อมล้อมด้วยนักบวชและคนอื่นๆ ด้วยความสับสน


 


การเป็นนักบุญหมายความว่าฉันควรจะภูมิใจกับมัน... ฉันพยายามยิ้ม ระงับความรู้สึกอยากร้องไห้


 


ฉันกลับบ้านและร้องไห้อย่างหนักเท่าที่จะทำได้


 


ขณะที่ฉันร้องไห้ ฉันบอกพ่อแม่ให้รูดี้ยกเลิกการหมั้น


 


พวกเขารู้ว่าฉันทำอะไรไม่ได้...


 


(ทำไมลูกถึงได้เป็นนักบุญละ?)


 


ฉันได้ยินพ่อพูดว่า


 


(ที่รัก...)


 


พ่อแม่รับฉันด้วยสีหน้าเศร้าหมอง


 


และเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ฉันมองดูรูดี้จากระยะไกลอย่างโหยหา


 


ฉันไม่กล้าพูดกับเขาตรงๆ


 


จากนั้นผู้กล้าเคนก็มาหาฉัน


 


ฉันคงต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับผู้ชายคนนี้... ฉันคงต้องทิ้งชีวิตในฐานะผู้หญิงและความรู้สึกของฉันที่มีต่อรูดี้ไว้เบื้องหลัง...


 


แต่ฉันคิดผิด


 


ชายคนนี้ผู้กล้าเคนกำลังตกหลุมรักกับคนอื่นอยู่


 


「แต่ว่าฉันนะเป็นผู้กล้าดังนั้นฉันเลนยต้องยอมแพ้เรื่องเธอ อย่างไรก็ตาม ถ้าฉันเอาชนะราชาปีศาจได้เร็วๆละก็... ถ้าเธอยังโสกอยู่ ฉันจะขอเธอแต่งงาน!」


 


และฉันก็เล่าเรื่องรูดี้ให้เขาฟัง


 


เขามักจะฟังโดยไม่พูดอะไรสักคำ


 


จากนั้นฉันก็ขอความช่วยเหลือจากเคน


 


ฉันจูบเขาต่อหน้ารูดี้


 


รูดี้วิ่งหนีไปพร้อมกับน้ำตาที่นองหน้า


 


「นี่คือสิ่งที่เธอต้องการงั้นเหรอ?」


 


「ใช่ เพราะฉันอยากให้รูดี้มีความสุข... ไม่อย่างนั้นเขาจะเป็นหนุ่มโสดหัวแข็งไปตลอดชีวิต」




「แต่นี่ไม่ทำให้เธอเศร้างั้นเหรอ?」


 


「เขาน่ะป็อปมาก! ถ้าฉันไม่อยู่ด้วย... ฉันแน่ใจว่าเขาคงจะมีความสุขกับผู้หญิงคนอื่น」


 


「ก็มันเป็นเรื่องยากสำหรับเราสองคนอะนะ」


 


เขากับฉันเหมือนกัน... หรือว่าฉันแค่คิดไปเองกันนะ


 


พอรูดี้เข้าใกล้การเลิกรา จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนไป


 


เขาไม่ต้องการไม่อยากจะเลิกรากับฉันทิ้งฉันไว้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม นั่นเป็นสิ่งที่เขารู้สึก 




ฉันมีความสุขมากที่ได้เห็นมัน... และฉันอยากจะกอดเขา... แต่ฉันทำไม่ได้


 


จะไม่ดีใจได้ยังไงที่รูดี้ต้องการฉันมากขนาดนี้?


 


แต่ตอนนี้ฉันเป็นนักบุญแล้ว และโลกจะถึงกาลอวสานถ้าฉันกับเคนไม่ออกไปสู้


 


เราไม่มีทางเลือก


 


「ลิลี่ ผมจะยอมทำทุกอย่างเลย... ได้โปรด ขอร้องละอย่าไปนะ」


 


ขอบคุณ นั่นมีความหมายมาก... แต่ฉันทำไม่ได้ ฉันต้องแก้สิ่งนี้และรักษาความรู้สึกของฉันไว้


 


「เฮ้ รูดี้ นายกำลังพูดอัะรอยู่ โลกจะมีปัญหาถ้าผู้กล้ากับฉันไม่สู้นะ!」


 


ฉันอยากอยู่กับรูดี้เหมือน... และฉันก็อยากจะอยู่กับเขา


 


「ทำไมเธอไม่ปล่อยให้การต่อสู้เป็นของพวกผู้กล้าและเหล่าอัศวินละ? เพราะงั้น ได้โปรกอยู่ที่นี่เถอะ ได้โปรด ขอร้องละ!」


 


ถ้าฉันทำได้ ฉันก็จะ...


 


「ไม่มีผู้กล้าคนอื่นอีกแล้ว และฉันรักเคน... ฉันรักผู้กล้าเคน... ไม่ใช่นาย」


 


ที่จริงฉันรักเขา...แต่ฉันอยากให้เขามีความสุข...เพราะอย่างงั้นลิมฉันไปเถอะนะ


 


「ผมไม่สนหรอกว่าเธอจะรักผมไหม... แต่อย่าไปเลยนะ」


 


เขาจะแคร์มากขนาดนี้ได้ยังไง...? ฉันไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ที่นี่ถ้าเขาคิดว่าฉันไม่รักเขา...

นายเป็นห่วงฉันมาโดยตลอดเลยสินะ...ฉันก็เหมือนกัน ที่ฉันอยากอยู่กับนายก็เพราะว่าฉันรักนายยังไงล่ะ ไม่งั้นก็คงไม่มีประโยชน์หรอกที่ฉันจะไปอยู่เคียงข้างนาย

 


「โอ้ย รูดี้ ฉันผิดหวังในตัวนายมาก ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมฉันถึงเคยรักนาย ออกไปให้พ้นสายตาฉันซ่ะ」


 


พูดตรงข้ามกับที่รู้สึกมันยากมาก... เพราะงั้นเลิกเถอะนะ...


 


「ไม่ ผมจะยอมทำอะไรก็ได้ เพราะงั้น ได้โปรดอย่าไปเลยนะ」


 


ฉันดีใจ แต่ฉันไม่สามารถตอบได้ อย่างไรก็ตาม ฉันจะไม่มีวันลืมนาย... ลาก่อน...


 


แล้วเคนก็เดินเข้ามา


 


ฉันได้ทำสิ่งที่เลวร้าย โดยการพาเขามาช่วยสร้างภาพ


 


เขาได้ทำการต่อว่าและทุบตีรู้ดี้


 


แบบนี้ดีแล้ว... แบบนี้โอเคแล้ว...


 


「เป็นแค่นักล่า แต่กล้าเอื้อมมือมาแตะต้องคนระดับเธองั้นเหรอ? ชักจะกล้าเกินไปหน่อยหรือเปล่า ไสหัวไปซะอย่าให้เธอเห็นหน้าของแกอีก!」


 


ตอนนี้เขาต้องเกลียดฉันมากแน่ๆ แต่เขาจะมีความสุขและลืมฉัน


 


「ลิลี่...อย่าไป...」


 


ฉันขอโทษ... ที่ฉันทำให้นายต้องมากังวล


 


ฉันคุยกับเคนแล้วเราก็ตัดสินใจออกเดินทางทันที


 


「แน่ใจนะว่าเธอโอเคกับเรื่องนั้น?」


 


「ก็มันช่วยไม่ได้… ถ้าฉันเห็นหน้ารูดี้ ฉันจะหยุดร้องไห้ไม่ได้」


 


「ก็…เขาก็จะร้องไห้เหมือนกันนะ」


 


「ใช่」


 


「ถ้าอย่างนั้น ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ฉันบอกเธอได้เลยว่า... เขาคลั่งรักเธอมากและเขาคงจะรอเธอไปจนวันตาย」


 


「จริงเหรอ?」


 


「งั้นเรามาฆ่าจอมมารแล้วกลับไปหาคนที่เรารักกันเถอะ」


 


「ได้เลย」


 


ฉันอยากจะแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุด


 


เพราะงั้นฉันเลยกดดันตัวเองมากเกินไป


 


ฉันแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถปราบปีศาจได้


 


แต่แล้ว คำขอช่วยเหลือก็มาถึงผ่านกลุ่มอัศวิน




 พูดตามตรง ฉันอยากจะฆ่าขุนนางของปราสาทแห่งนี้


 


เพราะไอ่ขุนนาวคิดว่าเราจะไม่มาหากเราได้ยินว่าใครเป็นคนมาโจมตี เขาเลยปิดซ่อนไว้ว่าใครเป็นคนโจมตีเขา


 


และผู้ที่ทำลายเมืองและโจมตีเขาก็คือ "แมมมอนอาวุธทำลายล้าง" เขากำลังอยู่ในปราสาท


 


แต่การที่เราได้พบเขา เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องต่อสู้...หากเป็นอาชีพอื่นมันก็อาจจะยอมปล่อยไป... แต่ไม่มีทางที่ปีศาจตัวนี้จะปล่อยให้ผู้กล้าและนักบุญหนีไปได้ 


 


อย่างไรก็ตาม เราเป็นแค่ผู้กล้าที่ยังไม่มีประสบการณ์และเป็นนักบุญที่ไม่มีประสบการณ์...


 


ดาบศักดิ์สิทธิ์ของนั้นแตกหักอย่างง่ายดาย(วิชาดาบและเวทมนตร์ก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้


 


ของฉันก็แตกอย่างง่ายดายและฉันก็ถูกโจมตีอย่างหนักจนเวทมนตร์รักษาของฉันไม่สามารถตามทันการโจมตีได้ 


 


จากนั้นเคนก็เสียชีวิตเมื่อแมมมอนทับแขนและศีรษะของเขา


 


ตอนนี้เป็นตาของฉันแล้ว...


 


「ผู้หญิงงั้นเหรอ ข้าล่ะไม่ชอบยุ่งกับพวกผู้หญิงเลย」


 


ฉันถูกเปลื้องผ้าล่อนจ้อน




「เจ้าเป็นนักบุญ แต่เจ้าได้เปิดเผยผิวของเจ้าต่อสาธารณชน... ดังนั้นเจ้าเลยสูญเสียคุณสมบัติของการเป็นนักบุญไปแล้ว... หนีไปทุกเมื่อที่เจ้าต้องการเลย」


 


ไม่มีทาง… ฉันยอมแพ้เรื่องคนที่ฉันรักและผู้กล้าก็ตายไปพร้อมกับฉัน ถึงฉันจะหนีเอาชีวิตรอดที่นี่ เมืองนี้ก็จบลง ไม่มีใครช่วยฉันได้ และฉันจะโดนปีศาจข่มขืนจนตาย หรือถ้ารอดก็โดนโจรข่มขืนจนตาย...ถึงจะหนีไปที่นั่นได้... ฉันว่าชีวิตต่อจากนี้ในฐานะนักบุญที่หลบนี้... มันจบสิ้นแล้ว 


 


「แมมม่อน ฉันอยากสู้กับแก」


 


「งั้นก็ตายซ่ะ...」


 


แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกหลงละเริงดีใจอะไรเพราะมันก็แค่แมลง


 


และในอดีต มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งร้องขอชีวิตนางพยายามเย่ายวนแมมมอน แต่เธอถูกฆ่าเพราะ 『เธอไม่ทรงต้องการกอดแมลง』


 


อย่างน้อยตอนนี้ก็รู้ตัวแล้วว่าฉันคงจะสามารถปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงได้อยู่


 


ฉันถูกไฟคลอกเหมือนแมลง แขนขาขาด... ตอนนี้ชีวิตฉันจบลงแล้ว... แต่ฉันคิดถึงรูดี้จังเลย


 


◆◆◆