หน้าหลัก > เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย) > ตอนที่ 55

ตอนที่ 55 - ผู้กล้า ปะทะ มังกร ตอนที่สอง

เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย)

ตอนที่ 55 ผู้กล้า ปะทะ มังกร 2



ฝูงมังกรได้มุ่งเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับกลุ่มควัน

แซ็คได้ทำการดึงดาบศักดิ์สิทธิ์เดโอลูฟ (Deolf) ออกมา...ทันใดนั้นตัวดาบศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มส่องแสงสีน้ำเงินเป็นประกาย



ยังไงผู้กล้าก็คือผู้กล้า



หากจะให้เทียบเรื่องดาบก็คงต้องแพ้นักบุญดาบ (Sword Saint)


หากให้เทียบเรื่องใช้เวทมนตร์ก็คงต้องแพ้ปราชญ์


หากจะให้เทียบเรื่องการรักษาก็คงต้องแพ้ให้กับนักบุญ


ทว่า...ก็ยังมีบางสิ่งที่มีเพียงผู้กล้าเท่านั้นที่สามารถมีได้ไม่เหมือนใคร


สิ่งนั้นก็คือ『ความกล้า』



ผู้กล้านั้นจะมีหัวใจที่ไม่หวั่นเกรงต่อศัตรูหน้าไหน


ผู้กล้านั้นคือความหวังของพวกพ้องที่จะเข้าฝ่าฟันความสิ้นหวังตรงหน้า




「โอ้วววววว―――――――」


แซ็คพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วราวกับสายลม เพื่อปะทะฝูงมังกร


จากนั้นเขาก็ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ฟาดฟันใส่มังกรดินที่เข้ามาประจันหน้ากับเขา

แล้วก็ใช้มันในการเป็นบันไดเหยียบเพื่อกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า เพื่อจะฟันไวเวิร์นที่บินอยู่ด้วยแรงทั้งหมดที่มี


ทว่าก่อนจะได้ทำแบบนั้นมังกรหินตัวหนึ่งก็ได้โฉบมากลืนแซ็คที่กำลังลอยอยู่เข้าไปทั้งตัว....แน่นอนว่าแซ็คไม่ได้ตายเพราะเรื่องแค่นี้...คอของมังกรหินถูกตัดทันทีที่กลืนแซ็คเข้าไป.....เมื่อเขาออกมาได้แซ็คก็ทำการชูดาบศักดิ์สิทธิ์ของเขาขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์การยืนหยัดสู้กับพวกมังกร



แต่แล้วพอเขามองกลับไปข้างหลังก็พบว่า....



◆◆◆

มุมมองของแซ็ค

ฉันละไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง



「ไม่น้าาาาา――อย่าเข้ามา――อย่านะ อย่าเข้าม๊าาาาา」



ลิด้า?


นักบุญดาบที่มักจะวิ่งเคียงคู่กับฉันและฟาดฟันศัตรูราวกับสาวลมอยู่เสมอ


กำลังกรีดร้องออกมาอย่างกับเด็ก



สิ่งที่เธอทำในตอนนี้มีเพียงการแกว่งดาบมั่วๆ ไปมาใส่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า สภาพไม่ต่างอะไรกับเด็กแกว่งดาบไม้เล่น ทักษะดาบที่สวยงามของเธอมันไม่เหลือชิ้นดีแล้ว


คนที่อยู่ใกล้ๆ ก็หนักพอๆ กัน นั่นคือมาเรีย




「 โฮลี่วอล โฮลี่วอล โฮลี่วอล โฮลี่วอล โฮลี่วอล โฮลี่วอล โฮลี่วอล โฮลี่ว้อลลลลลลลーー」


เธอกำลังร่ายมนตร์ออกมาอย่างบ้าคลั่ง




「ชะชะชะ ช่วยฉันด้วย――ไม่เอาแล้วอ้า ช่วยฉันด้วย――」


เมลกำลังกระหน่ำเวทอัดใส่มังกรซึ่งอยู่ในสภาพไหม้เกรียมในจุดที่ไม่ห่างจากเธอนัก

บาเรียที่มาเรียสร้างขึ้นมานั้น มีทั้ง 3 สาวกำลังเอาหลังชนกันแล้วร้องไห้ออกมาอยู่ข้างใน

พอพวกมังกรเห็นแล้วว่าบาเรียของมาเรียไม่สามารถทะลวงได้ พวกมันก็เลยเลือกที่จะเลี่ยงบริเวณนั้นแล้วเดินหน้ากันต่อ

ทำไม...ถึงไม่มีใครตามฉันมาเลยล่ะ...โกหกน่า...


ความโดดเดี่ยวและความสิ้นหวังได้เข้ามากัดกินจิตใจ เมื่อฉันสังหารมังกรไปได้สักพัก



「ฮ่าๆๆ ...พอกันที」


พอเห็นแบบนี้ ฉันก็เลยกระโดดหนีเข้าไปในป่าข้างๆ แล้วปล่อยให้ตัวเองสลบไป



◆◆◆

นี่เวลามันผ่านไปนานแค่ไหนแล้วนะ?

คงจะดึกแล้วสินะ ดูสิพระจันทร์กำลังขึ้นเลยนี่นา

จริงสิ.... 3 คนนั้น

พวกเธอกำลังตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างกับคนบ้าอยู่ในบาเรียของมาเรียนี่นา

จะว่าไปรอบๆ นี้ก็ไม่เหลือพวกมังกรแล้วด้วยสิ...บางทีมันน่าจะผ่านแถวนี้ไปจนหมดเมื่อหลายชั่วโมงก่อนแล้วก็ได้มั้ง




「นี่ ลิด้า มาเรีย เมล....」



「「「ไม่เอาแล้วー」」」


พวกเธอยังคงกรีดร้องออกมาอยู่ภายในบาเรียของมาเรีย...ท่าทางจะไม่ได้ยินเสียงของฉันสักนิด


แต่ตราบใดที่พวกเธออยู่ในนั้นก็ไม่น่าจะต้องห่วงอะไร




ฉันก็เลยตัดสินใจเดินทางเข้าเมืองบลูยัน (Bouyan) แทน




「อึก...อ็อคค อุ๊บบบบบー」


ฉันอาเจียนออกมาในทันที


เพราะภาพตรงหน้าของฉันคือ....ศพที่กำลังกองเกลื่อนไปสุดสายตา



มีทั้งคนที่ถูกไฟคลอกจนไม่เหลือเค้าเดิม...มีทั้งคนที่ร่างกายขาดวิ่นท่อนล่างไม่เหลือซาก...แทบจะไม่เห็นศพที่อยู่ในสภาพดีๆ เลยสักศพ


หากจะให้อธิบายด้วยคำเดียวก็คงจะเป็น『โศกนาฏกรรม』


แต่ฉันก็พยายามเดินต่อไปเรื่อยๆ จนได้เห็นมองบลูยัน


สภาพของเมืองตอนนี้คือพังยับเยิน เปลวไฟได้ลุกโชนไปทั่วทุกหนแห่ง



สภาพแบบนี้มันไม่สามารถเรียกว่าเมืองได้อีกแล้ว



โดยบริเวณประตูทางเข้าของเมืองนั้นมีเหล่าอัศวิน นักผจญภัยและทหารซึ่งอยู่ในสภาพเหนื่อยล้ากำลังพักอยู่


และภายในฝูงชนพวกนั้น...กิลด์มาสเตอร์แบรนได้ฝ่าพวกเขาเข้ามาหาฉัน




「แซ็ค...ลอร์ดบลูยันได้ตายไปแล้ว...อามิลก็ด้วย...」



「งั้นเหรอ…」




「เอาแม่ฉันคืนมานะ――แกมันไม่ใช่ผู้กล้าแล้ว แกมันก็แค่ปีศาจร้าย――」



「โอ๊ย แล้วจะมาปาหินใส่ฉันทำไม――ไอ้เจ้าเด็กเวรนี่」


「เดี๋ยวเถอะ เขาเป็นผู้กล้านะ พอแค่นี้จะดีกว่า」





「แต่ว่า...」



「พอเถอะ」



「…」


ทำไมเอ็งต้องมองฉันด้วยสายตาจงเกลียดจงชังด้วยล่ะ?




「นี่...แซ็ค...ฉันถามนายหน่อยสิ ทำไมนายถึงต้องเลือกจะสู้กับพวกมันด้วยล่ะ」



「ก็พวกมันเป็นมังกรนี่นา เราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจัดการมันหรอก」



「แต่นายรู้หรือเปล่า...จากที่ฉันตรวจสอบมา พวกมันก็แค่กำลังอพยพหนีไปที่ไหสักแห่งก็เท่านั้นเอง....ถึงมาพูดตอนนี้มันจะสายไปแล้วก็ตามนะ แต่ถ้าหากพวกเราทุกคนเลือกที่จะหนีออกจากเมืองนี้ไป แล้วค่อยรอโอกาสกลับมาที่เมืองนี้อีกครั้งหลังพวกมันผ่านไปแล้วจะไม่ดีกว่าเหรอ...ก็จริงว่าสภาพของเมืองคงไม่เหลือชิ้นดี แต่อย่างน้อยคงจะไม่มีคนตายเลยสักคนแน่ๆ 」



「แต่ที่ฉันได้ยินมาจากทางศาสนจักร มัน...」


「ฉันไปถามกับทางนั้นมาแล้ว...พวกเขาก็ไม่ได้บอกให้นายไปสู้กับมันตรงๆ สักหน่อย...ไอ้สารยำเอ้ย―――」



โกหกน่า...ก็เป็นทางศาสนจักรบอกเองไม่ใช่เหรอว่าให้ฉันทำแบบนี้...?

ไม่สิ..นึกให้ออก


พวกนั้นบอกว่าอะไรกันแน่...


พวกเขาต้องบอกกับฉันว่าให้จัดการพวกมันแน่ๆ


อะ...อ๋อออออー-




『 ส่วนปลายทางของพวกมันก็คือเมืองใหญ่อย่างบลูยัน หากท่านไม่ทำการไปขัดขวางหรือเปลี่ยนทิศทางของพวกมันละก็ผู้คนในเมืองจะต้องล้มตายกันเป็นจำนวนมากแน่ๆ 』


พวกนั้นไม่ได้บอกให้ฉันโค่นมันเลยนี่หว่า


『ก็แค่หาทางขัดขวางหรือไม่ก็เปลี่ยนทิศทางของมัน』นั่นคือสิ่งที่พวกเขาอยากจะบอก


ไม่ได้บอกให้ออกไปสู้กับมันตรงๆ


หากเป็นแบบนั้น...ถึงจะเป็นพวกเราก็น่าจะทำได้นี่นา...หากคิดดีๆ อีกสักหน่อย...


ทำไมฉันถึงพลาดเรื่องสำคัญแบบนี้ไปได้กันนะ




「เห้อให้ตายสิ...ยังไงนายก็เป็นถึงผู้กล้า เอาเป็นว่าอย่าได้คิดมาเหยียบที่นี่อีกก็แล้วกัน....ดูจากสภาพก็รู้แล้วว่านายไม่ได้เก่ง ถึงจะมาร้องไห้เสียใจเอาป่านนี้ก็ไม่ได้ช่วยหรอกนะ พวกญาติของคนที่ตายไปน่ะใช่จะสนสักหน่อย ขนาดฉันเองก็พยายามดึงสติตัวเองเอาไว้ให้สุดแล้ว...ทั้งที่ลูกกับเมียของฉันก็ตายเหมือนกันแท้ๆ .....รีบไปซะ...แล้วอย่ากลับมาอีก…」



「ขอโทษด้วยนะ..…」


ฉันก็เลยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องออกจากที่แห่งนี้ไป




◆◆◆


จากนั้นฉันก็กลับไปหาทั้ง 3 คน



มาเรียก็ยังเอาแต่สร้างบาเรียไม่เลิก สภาพทั้ง 3 คือร้องไห้ไม่หยุดเลย



「ยังดูสบายกันดีเลยนี่นะ...นี่พวกเธอ...รีบปลดบาเรียออกได้แล้ว――」


ฉันชกเข้าไปที่บาเรีย

หยดเลือดได้ไหลออกมาจากกำปั้นของฉัน แต่ฉันก็ไม่คิดจะสนใจ



「ไปกันเถอะ...รีบไปกันได้แล้ว....รีบปลดยบาเรียแล้วไปกันได้แล้วเว้ย――ยัยบ้าพวกนี้นี่」


ฉันชกบาเรียต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่สนเลยสักนิดว่ากระดูกจะหักไหม


ขณะนี้แสงจันทร์เริ่มสาดส่องลงมาจากผืนฟ้าแล้ว




◆◆◆

มุมมองของ 3 สาว

ถึงจะมาอยู่ในปาร์ตี้ของผู้กล้า แต่พวกเราก็เป็นอดีตสาวชาวบ้านธรรมดามาก่อน


หากมีคนบอกให้มาเผชิญกับเรื่องโหดร้ายแบบนี้ เป็นใครบ้างจะไม่กลัว



ถ้ามีเวลาให้พวกฉันอีกสัก 1 ปี ฉันมั่นใจเลยว่ามันจะต้องต่างออกไปจากตอนนี้


พวกเรายังไม่มีประสบการณ์เลยสักนิด....