หน้าหลัก > เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย) > ตอนที่ 44

ตอนที่ 44 - [เรื่องสั้น] ณ รถม้า

เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย)

44 [เรื่องสั้น] ณ รถม้า


มุมมองของตัวละครหลัก

 

 อันที่จริง มีบางอย่างที่ฉันยังไม่ได้บอกชิซุโกะและคนอื่นๆ

 

 นั่นคือแซ็คและคนอื่นๆ คงจะไม่ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้แล้ว

 

 ถ้าปราบจอมมารสำเร็จ อย่างน้อยแซ็คจะได้เป็นขุนนาง หรืออาจจะเป็นราชาก็ได้... ดังนั้นเขาจะไม่อยู่ในหมู่บ้านต่อไปแน่นอน

 

 การกลับมาของพวกเขาจะใช้เวลาหนึ่งหรือสองสัปดาห์หลังจากขบวนพาเหรดแห่งชัยชนะ

 

 และนั่นจะเป็นครั้งเดียว

 

 อย่างมากสุด พวกเขาก็จะแค่ตกใจเมื่อกลับมา

 

 อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นพวกเขาจะไม่กลับมาที่หมู่บ้านนี้อีก

 

 แต่มีโอกาสดีที่พวกเขาจะไม่มาด้วยซ้ำ เพราะพวกเขาไม่ได้ผูกพันกับหมู่บ้านมากเหมือนฉัน


เฉพาะในกรณีที่เลวร้ายที่สุด... เมื่อจอมมารเอาชนะพวกเขาได้ พวกเขาไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้อีกต่อไป

 


 * * *

 

 มุมมองของหัวหน้าหมู่บ้าน

 

 “เฮ้ ฉันมีคำถามอยากจะถามพวกนาย... พวกนายน่ะจงใจเล่นเป็นตัวร้ายใช่ไหม?”

 

 """คุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่ครับ? (อะไรนะครับ?) (หมายถึงอะไรเหรอครับ?)"""

 

 อย่างที่ฉันคิด คนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เซ็คเตอร์แสดงสีหน้าสงสัย

 

 “ถ้าไม่นับเซ็คเตอร์ พวกนายสามคนเลิกกับภรรยาเพราะทำข้อตกลงกับเซเรสไม่ใช่รึไง?”

 

 แน่นอนว่าหลังจากมีลูกความสัมพันธ์ก็เปลี่ยนจาก "ชาย-หญิง" เป็น "ครอบครัว" เว้นแต่จะเป็นเรื่องใหญ่

 

 นอกจากนี้ เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราจะไม่สามารถอยู่เป็นคู่รักหรือคู่บ่าวสาวได้ตลอดไป


"หัวหน้าหมู่บ้าน คุณไม่จำเป็นต้องถามหรอกนะครับ..." คาซุมะพูด

 

 "ฉันยกเธอให้เพราะคนนั้นคือเซเรสนั่นคือเหตุผลทั้งหมด" ไคโตะกล่าว

 

 ดูเหมือนที่ปรึกษาจะสังเกตเห็นด้วย

 

 "หัวหน้าหมู่บ้านสังเกตเห็นไหม เซเรสคุงน่ะเป็นเด็กดี... เขาทำงานหนักในหมู่บ้านเสมอ... แม้ว่าเขาจะไม่มีเงินหรืออาหารเพียงพอ แต่เขาก็ยังแบ่งปันอาหารของเขาให้กับมิซากิและมาเรีย... ยิ่งกว่านั้น เขาเป็นเด็กกำพร้าแต่เขาเข้ามามีบทบาทเป็นพ่อในครอบครัวของเรา” ชูโตะกล่าว

 

 ช่างตลกสิ้นดี... นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด ...

 

 แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นได้ที่ชายสามคนจะต้องการทาสสามคน

 

 "อย่างไรก็ตาม ฉันไม่คิดว่าคาซุมะหรือไคโตะจะต้องการทาสหรอกนะ นับประสาอะไรกับนายนะชูโตะ"

 

 “ในนิสัยของฉัน ฉันจะสบายใจที่จะจ้างพนักงานเสิร์ฟมากกว่าทาส แต่ถ้าฉันไม่พูดอย่างนั้น เซเรสก็จะไม่พอใจนะสิ” คาซุมะกล่าว

 

 “ใช่ เขาแค่ต้องการตอบแทนอะไรสักอย่าง” ไคโตะพูด

 

 อย่างที่คิด ชายทั้งสามคนนี้กำลังทำงานร่วมกัน

 

 "เดี๋ยวสิ... ทั้งหมดนี้มันเรื่องอะไรกัน ฉันไม่เข้าใจเลย... พวกนายช่วยอธิบายให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม?"

 

 ในที่สุดเรื่องราวก็ดำเนินไปเช่นนี้

 

 เซเรสคอยช่วยเหลือพวกเขาเสมอ และพวกเขาดูแลเขาราวกับว่าเขาเป็นลูกของพวกเขา

 

 พวกเขาคิดว่าเขาจะแต่งงานกับลูกสาวคนหนึ่งของพวกเขา เมื่อเขาทำ... พวกเขาจะช่วยเขาหากเขามีปัญหาใดๆ... แต่จากทั้งหมดนั้น เขาไม่เคยแต่งงานกับลูกสาวทั้งสามคนเลย... และนั่นดูเหมือนจะทำร้ายเซเรามากยิ่งขึ้นไปอีก (he him his ล้วนๆปวดหัว~

 

 "ฉันเข้าใจแล้ว... เพราะงั้นพวกนายเลยเลิกเป็นภรรยาของคุณเอง..."

 

 "แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบชาย-หญิงกับฮารุกะแล้ว แต่ฉันยังมีความรักในครอบครัว... ถ้าไม่ใช่เซเรส ฉันคงไม่ยกเธอให้ใครหรอก... และคุณเข้าใจใช่ไหมครับ หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ ผมเลยตัดสินใจมอบฮารุกะให้กับเซเรสผู้กระหายความรักของแม่และครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก" ครซุมะกล่าว

 

 “ใช่ ฉันก็เหมือนกัน ไม่สิ ฉันน่ะปากหมา ชอบทำร้ายซาโยะแต่เซเรสก็ดูแลเจ้าตัวเล็กแสนขี้แยนั่นแล้วก็ลูกสาวของฉันด้วย... และตอนนั้น ฉันมีแผนที่จะให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของฉัน ฉันจะดูแลเขาในฐานะลูกเขยของฉัน แต่เพราะนั่นจะไม่เกิดขึ้น... ฉันคิดว่าคงไม่เป็นไรที่จะมอบซาโยะให้กับเซเรส เด็กผู้ไม่เคยรู้จักความรักของแม่ นั่นคือทั้งหมดที่ฉันคิด " ไคโตะกล่าว


"ส่วนของฉันก็อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้... เซเรสคุงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันและเป็นลูกชายของฉัน... เขาดูแลฉันดีมากเหมือนกัน... ฉันเลยอยากจะให้บางอย่างกับเขา และฉันก็คิดว่า... แม่คือผลลัพธ์ก็คือสิ่งนี้" ชูโตะกล่าว

 

 ในวัยนี้เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะสูญเสียความสัมพันธ์ในชีวิตสมรส โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิง

 

 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงจะจบลงที่นั่น แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวก็แข็งแกร่งขึ้น

 

 ทั้งสามคนนี้ต้องคิดว่าเซเรสเป็นครอบครัวของพวกเขา

 

 "ฉันไม่อยากจะพูดแบบนี้เลย แต่จากสิ่งที่ฉันเห็น พวกนายน่ะได้ไล่ภรรยาของพวกนายออกไปด้วยตัวของนายเอง..."

 

 "ที่ปรึกษาคาจิน่า... เซเรสน่ะมีเงินมากมาย... และเขาเป็นแรงค์ S ด้วย... ฉันหมายความว่า ถ้าเขาไม่มีเงิน ฉันจะให้เขาครึ่งหนึ่ง... แต่ถ้าฉันเสนอเงินให้เขา...เขาคงจะอาย...ก็เลยไม่ให้นะ"

 

 “ใช่แล้ว... แต่เขากังวลเกี่ยวกับเงินทุนในการเปิดร้านของฉันและไม่ยอมรับมัน เขาอาจเสนอเงินสนับสนุนถ้าฉันบังคับมากเกินไป เพราะงั้นฉันเลยไม่กล้าพูดถึงเรื่องนี้”

 

 “ฉันก็เหมือนกัน… ถ้าฉันให้เขาเขาจะเริ่มร้องไห้ด้วยสีหน้าเสียใจแน่”

 

 ในท้ายที่สุด ขยะที่แท้จริงคือเซ็คเตอร์เท่านั้น

 

 “นั่นเป็นเรื่องที่ดีมาก แล้วทำไมพวกนายถึงยอมรับทาสเหล่านี้ละ”

 

 “หัวหน้าหมู่บ้านก็เหมือนกันไม่ใช่รึไง? ของขวัญจากเพื่อนสนิทที่เหมือนลูกชาย... ฉันจะไม่รับมันไว้ได้ยังไง ในเมื่อคนนั่นคือเซเรสคุง ฉันรู้สึกว่าเขากำลังคิดวาาฉันต้องการอะไรอยู่” ชูโตะกล่าว

 

 "ใช่ ฉันได้ผู้หญิงรับจ้างที่ไม่รังเกียจฉัน" ไคโตะกล่าว

 

 "ฉันได้แม่บ้านทำอาหาร... แน่นอนว่าเขาเลือกผู้หญิงที่ทำอาหารเก่งและไม่ดูแลฉันเพื่อสอนให้ฉันชื่นชมฮารุกะ... ฉันดีใจที่เขาพยายามช่วยให้ฉันเติบโตเป็นพี่ชายของเขา เขา คงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในตลาดทาสเพื่อเลือกสิ่งที่ฉันต้องการเลยละ" คาซุมะกล่าว


“อืม ภรรยาของฉันก็เหมือนกัน… และถ้าเธอรู้สึกขอบคุณฉันก็ไม่สนหรอก” เซ็คเตอร์กล่าว

 

 "ลิด้า ลูกสาวของฉันไม่ได้ส่งเงินหรือของขวัญให้ฉัน แต่เซเรสใส่ใจและส่งของให้ฉันบ่อยๆ ฉันจะไม่รู้สึกขอบคุณได้ยังไงละ?" คาซุมะกล่าว

 

 "ใช่ ลูกสาวของฉันก็ไม่ส่งมาให้ฉันเหมือนกัน แต่เซเรสคุงส่งหนังสือและของหายากมาให้ฉัน... ฉันไม่ต้องการอะไร แต่ฉันซาบซึ้งในความรอบคอบของเขา ฉันขอบคุณเขาจริงๆ" ชูโตะกล่าว

 

 “เขาแตกต่างจากเมลจริงๆ” ไคโตะกล่าว

 

 "ฉันก็รู้สึกขอบคุณมากกว่าแซ็คลูกชายของฉันด้วยซ้ำ" เซ็คเตอร์กล่าว

 

 “เซ็คเตอร์ นายน่ะไม่ต้องพูดอะไรเลยนายน่าจะใช้ชีวิตที่เหลือขอบคุณเซเรสนะ”

 

 ฉันว่ามันช่างน่าตลกสิ้นดี

 

 พวกเขาสามคนทำราวกับว่าพวกเขากำลังทำงานร่วมกัน

 

 พวกเขากำลังคิดถึงเซเรสในแบบของพวกเขาเอง

 

 สิ่งที่หมู่บ้านอันเงียบสงบแห่งนี้ต้องการไม่ใช่ 'ผู้กล้า'

 

 แต่คือคนที่คิดและทำเพื่อส่วนรวมของหมู่บ้าน

 

 ในเมื่อเซเรสทำเพื่อฉันมากมายฉันเลยต้องคิดอะไรบางอย่าง