25 ขยะที่เกลียดไม่ลง
หลังจากพูดคุยเรื่องนี้แล้ว ผู้หญิงทั้งสามก็แยกทางกันอย่างง่ายดาย
แปลกนิดหน่อยเพราะผมรู้สึกเหมือนอยู่ในสังคมหมู่บ้าน...เหมือนผมเป็นคนเลว...ทั้งๆที่เป็นคนดี
ท้ายที่สุดผู้คนในหมู่บ้านนี้ใจดีมาก
“เซเรส เป็นอะไรหรือเปล่า? เธอดูสับสนนะ... ให้ฉันช่วยไหม”
"เซเรสคุง... เธอคิดเรื่องอื่นอยู่หรือเปล่า?"
"อืม ผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาพักหนึ่งแล้ว... แต่กลายเป็นว่าทุกคนที่นี่ดีจริงๆ... นั่นคือสิ่งที่ผมคิดนะครับ"
ยกเว้นชิซุโกะ ฉันรู้สึกว่าผู้หญิงที่เหลือทั้งสามคนมีเมฆหมอกเล็กน้อย
"ฉันขอโทษนะเซเรส แต่ฉันไม่มีความรู้สึกใดๆ กับคาซุมะคุงอีกต่อไปแล้ว... และเซเรส เพราะฉันอยากจะเลิกกันโดยดีฉันเลยไม่เข้าไปแทรกแซง ชอะไรทั้งนั้น นอกจากนี้ที่ฉันไม่ได้พูดอะไรเพราะเซเรสน่ะรักคาซุมะคุงในฐานะ 'พี่คาซุมะ' แต่คาซุมะก็คือคาซุมะ... ไอ้งี่เง่านั่นมันขยะแขยงจนฉันอยากตบหน้าเขา"
"เซเรสซัง... อย่าไปหลงกลนะแม้ว่าเขาจะพูดจาเหมือนเป็นผู้ชายที่โตแล้ว... แต่เขานะมันช่างเพ้อเจ้อและเขาต้องการจะเลิกกับฉันให้เร็วที่สุด ฉันก็เลยมากับเขาได้ไกลเพียงเท่านี้... เขามันเป็นขยะคุณไม่ควรถูกหลอกนะ”
"เซเรสจัง ผู้ชายคนนั้นน่ะทั้งนิสัยเสียและชอบเมิน... แต่เขาชอบเซเรสจังจริงๆ... อย่างไรก็ตาม เขาแค่อยากจะทำดีกับเซเรสจัง ผู้ซึ่งเคารพเขาเพราะเขาขี้เกียจและงี่เง่านะ"
"จริงเหรอครับ? ผมคิดว่าพวกเขาจงใจเล่นเป็นตัวร้าย... และพวกเขาไม่ขอเงินผมเลยด้วยซ้ำ ซึ่งผมคิดว่านั้นมันดีมาก..."
"เซเรสคุง... ฉันเอาสิ่งนี้คืนมาจากคาซุมะคุง... เขาขอโทษและต้องการคืนมันให้เธอนะ"
“ชิซุโกะซัง เงินนั้น ผมให้พี่คาซุมะไปแล้วนะครับไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก!”
“เซเรส เจ้าโง่!”
*ปั๊ก!
“พี่สาว?”
"เซเรส... เพราะเธอเป็นคนดีมาก! ฉันภูมิใจในตัวนายในฐานะพี่สาวและในฐานะ... เอ่อ ภรรยา นอกจากนี้ ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งในตอนนั้นเพราะฉันอยากอยู่จะกับนายแต่... นายไม่จำเป็นต้องให้เงินคาซุมะคุงหรอกนะ"
"เซเรสซัง คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณเจ้ากล้ามบึ้มลกนั่นหรอก โอเคไหม? เขาไม่มีจิตวิญญาณความเป็นลูกผู้ชายเลยสักติ๊ด..."
"เซเรสจัง... ฉันก็รู้สึกแบบเดียวกัน เพราะงั้นเธอไม่จำเป็นต้องขอบคุณเขาสำหรับความเห็นแก่ตัวของเขาหรอกนะ"
ทำไมพวกเธอพูดแบบนี้กันระหว่างทางทุกคนเลยละ?
"แต่... ถ้าพี่คาซุมะคืนเงินให้ผม ก็จะไม่มีใครได้รับเงินนั้น... นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักหรอกเหรอครับ?"
"เซเรสคุง... สมมุติว่าสามคนนั้นเป็นคนดีนะโอเค๊? แล้วทำไมเซเรสคุงไม่รับเงินแทนละจ๊ะ?"
"ชิซุโกะซังนั่นเป็นเพราะผมเป็นคนพาทุกคนมาที่นี่ เพราะงั้นผมเลยควรจะให้เงินพวกเขาไงครับ"
“เซเรส เจ้างี่เง่า! คิดดูสิ!”
*ปั๊ค!
"พี่ครับ พี่ทำผมเจ็บนะ... ผมคิดว่าคนที่ได้อะไรมามักจะจ่ายกลับใ..."
"เซเรสซัง... ตอนที่เมลกลายเป็นนักปราชญ์เธอให้เงินเราเป็นจำนวนมาก... ชิซุโกะไม่ได้บอกคุณเรื่องเงินเหรอ"
พอพูดถึงแล้ว... เซ็คเตอร์ก็เจ๊งเพราะใช้เงินนั้นอย่างฟุ่มเฟือยนี้หว่า
"ผมก็เคยได้ยินมาอยู่ครับ... แต่นั่นไม่เกี่ยวกันกับเรื่องนี้หนิครับ"
"เซเรสจัง... เงินนั้นไม่ได้ให้แค่คนเดียวนะแต่มอบให้ครอบครัวหนึ่ง ในกรณีของเราคือสองสามีภรรยา... ฉันไม่คิดว่าคนดีจะให้ครึ่งหนึ่งกับเธอหรอกนะ"
"เซเรสเพราะว่าพวกเราสนิทกันมาก ฉันคิดว่าเราสามารถให้นายได้ครึ่งหนึ่ง... แต่คาซุมะไม่ยอมให้นาย... แต่แม้แต่ไอ่เศาลษเดนนั้นก็ยังรับเงินจากเเซเรสคนที่พาฉันออกมาจากเขาและรักเขาเยี่ยงพี่ชาย เพราะงั้นเขาเลยคืนให้นายด้วยความรู้สึกผิดที่มีอยู่เล็กน้อย... แต่เขาก็ยังผูกขาดเงินของเราและซื้อทาสมา... เขามันน่าขยะแขยงเกินพอแล้ว... "
"ถูกต้อง เซเรสซัง ไคโตะก็เป็นขยะเหมือนกันอย่าลืมเชียวนะ"
“ฉันก็เหมือนกัน เซเรสจัง ชูโตะเป็นคนเห็นแก่ตัว อย่าลืมเรื่องนั้นไปเชียวล่ะ”
"เซเรสคุง... ฉันรู้ว่าความทรงจำนั้นมันสวยงาม และมันก็จริงนะจ๊ะเซเรสคุง แม้แต่เซ็คเตอร์ก็ยังใจดีกับเธอเลยแต่นั่นเป็นเพราะว่าคนคนนั้นคือเธอมากกว่าจ๊ะ... แม้แต่ขยะก็ยังใจดีเมื่อได้รับการปฏิบัติด้วย 'ความเคารพ' ตั้งแต่ตอนที่เธอยังเด็ก... แต่... ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเอาเงินไปทั้งหมดและไม่เคยให้ฉันเลย... เธอต้องจำไว้ว่าเขาเป็นคนแบบนี้"
ก็จริง...
ฉันเป็นนักผจญภัยแรงค์ S... ฉันไม่สนใจเรื่องเงินเพราะมันง่ายที่จะหา
แต่ถ้าลองคิดดูดีๆ พวกเขาคงแย่ เพราะเขามีบ้าน มีนา และมีเงินเป็นของตุวเอง
แต่ก็...
พวกเขาเลี้ยงฉันมา...ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
“ผมมีอะไรจะบอกครับ ชิซุโกะซัง พี่สาว มิซากิซัง และซาโยะซัง... ผมไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าพวกคุณสี่คน ไม่ว่าจะเป็น การได้เป็นขุนนางและอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ ที่เป็นความฝันของแซ็คเท่าที่ผมจำได้อะนะ ผมไม่ได้อยากได้ของพวกนั้นเลยสักนิดและผมก็ไม่สนใจที่จะมีสาวเอลฟ์ แต่งงานกับเจ้าหญิง หรือแม้แต่เรื่องนั้น... ผมน่ะอยากจะ 'ใช้ชีวิตร่วมกับพวกคุณทั้งสี่คนมากกว่าครับ'"
""""เซเรส (คุน) (ซัง) (จัง)""""
“พวกคุณรู้ไหมตอนที่ผมพบคุณทั้งสี่คน เพราะผมยังเด็กไม่ว่าผมจะชอบคุณมากแค่ไหนผมก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้... ผมพยายามที่จะยอมแพ้และมองผู้หญิงคนอื่น แต่... มันไม่ได้ผลครับ… แต่ตอนนี้ผมก็ได้แต่งงานกับพวกคุณทั้งสี่คนแล้ว… ผมไม่สามารถเมินพวกเขาได้ครับ แต่มีคนหนึ่งที่ไม่นับนะ แต่ทั้งสามคนนั้นทำให้ทุกคนที่นี่ที่อยู่ข้างกายผม เพราะงั้นบางทีนั่นอาจทำให้พวกเขาเป็นคนน่ารังเกียจ แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณครับ ผมไม่ได้ต้องการเงินมากมาย ผมจะอยู่อย่างมีความสุขกับพวกคุณทั้งสี่คน แม้แต่ 10,000 เหรียญทองก็ยังดูไม่น่าสนใจพอมาเทียบกับสิ่งนั้น ผมพูดไม่เก่งมากแต่นี่คือสิ่งที่ผใคิดอยู่เสมอครับ….”
"ถ้าเซเรสคุงพูดอย่างนั้น ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้แล้วละ... อุฟุฟุฟุ เธออยากได้ฉันมากกว่า 10,000 เหรียญทอง... ขอบคุณนะจ๊ะ"
"เซเรส ถ้านายคิดถึงฉันมากขนาดนั้น... ฉันคงไม่มีทางเลือก"
"เซเรสซังบอกว่าเงินไม่สามารถซื้อฉันได้... ถ้าคุณพูดอย่างนั้น ฉันก็พูดขัดไม่ได้แล้วละ"
"ถ้าเซเรสจังคิดว่าฉันมีค่าขนาดนั้น... ฉันจะไม่พูดอะไรแล้ว... ฉันคิดว่าเงินนั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวของสิ่งที่เธอให้ฉันมา"
อาจจะดูสุดไปหน่อย...แต่ฉันว่า...
ทำไมพวกเขาถึงอยากได้ทรัพย์สิน บ้าน หรือตำแหน่งละ...?
อาจจะเพราะมันจำเป็นสำหรับการดึงดูดเพศตรงข้ามที่พวกเขาชอบงั้นเหรอ?
แต่ถ้าคนที่เค้ารัก… ฉันว่าเค้าควรอยู่ให้น้อยที่สุด
ฉันเชื่ออย่างนั้นจริงๆ
นั่นเป็นเหตุผลที่... ฉันเกลียดพวกเขาไม่ได้ ทั้งพี่คาซุมะ ทั้งไคโตะซัง และชูโตะซัง
เพราะพวกเขาให้สมบัติล้ำค่าที่สุดกับฉัน