หน้าหลัก > เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย) > ตอนที่ 24

ตอนที่ 24 - ชูโตะ

เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย)

24 ชูโตะ


ฉันแยกทางกับซาโยะที่หน้าบ้านของไคโตะ

 

 และตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ซาโยะจะอยู่ที่บ้านของชิซุโกะซัง

 

 แน่นอนว่าฮารุกะก็ด้วย

 

 ตอนนี้ฉันกำลังจะไปที่บ้านของชูโตะ (สามีของมิซากิ)

 

 ฉันรู้สึกประหม่าไม่ต่างจากที่ของไคโตะเลย

 

 บ้านของชูโตเป็นหนึ่งในบ้านที่ไม่ได้ทำฟาร์มไม่กี่หลังในหมู่บ้านนี้

 

 เขาเปิดร้านขายของทั่วไปและร้านขายอาหารที่จัดการของใช้ในชีวิตประจำวันในหมู่บ้านนี้...เหมือนกับร้านสะดวกซื้อเล็กๆ ในโลกที่แล้ว

 

 แน่นอนว่าไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมงแต่จะปิดตอนประมาณ 17.00 น. (5โมงเย็น) แต่ถ้าคุณไปเคาะประตูก็จะเปิดให้ถึงจะเป็นตอนกลางคืนก็ตาม


 

 ชูโตะน่ะตรงกันข้ามกับไคโตะเลยเขาเป็นคนฉลาด

 

 “ไม่เจอกันนานเลยนะเซเรสคุง”

 

 "ไม่เจอกันนานเลยนะครับ ชูโตะซัง มันก็นานมากแล้วเนอะครับ"

 

 “จะทางการอะไรกันขนาดนั้น… นายเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ฉันรู้จักไม่ใช่รึไง? และนายก็โตพอที่จะดื่มแล้วใช่ไหม? มาๆดื่มด้วยกันสิ”

 

 ก่อนหน้านี้ฉันเตรียมพร้อมที่จะถูกเทศอยู่อะนะ

 

 แต่ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้รับการต้อนรับกลับมาที่นี่แบบนี้

 

 "โอเคครับมาดื่มกันเถอะ"

 

 ชูโตะซังเป็นคนฉลาดมาก ซึ่งหาได้ยากในหมู่บ้านนี้

 

 เขาคล้ายกับคาซุมะซังแต่เขาไม่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวบ้าน

 

 เหตุผลก็คือเขาเป็นคน 'มีเหตุผล' ตามที่ชาวบ้านคนอื่นๆบอก

 

 ทั้งนี้เป็นเพราะสังคมในหมู่บ้าน...

 

 คนในหมู่บ้านไม่ชอบคนที่ประสบความสำเร็จและฉลาด

 

 บางทีคาซุมะก็น่าจะฉลาดเหมือนกัน

 

 แต่เขาเป็นคนที่ตั้งใจมอบดอกไม้ให้อีกฝ่ายแล้วพูดว่า 'ผมไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้หรอกนะครับ'

 

 หากปราศจากความอ่อนน้อมถ่อมตน สังคมหมู่บ้านก็น่าจะรังเกียจเขา


 

 แต่ถึงชูโตะจะถูกไม่ชอบขี้หน้าแต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น

 

 เพราะเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าแต่เป็นคนในครอบครัวที่อยู่คู่หมู่บ้านมาหลายชั่วอายุคน

 

 ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับการปกป้องและสามารถเรียกได้ว่าเป็น 'ผู้ชายที่มีเหตุผล'

 

 “ฉันอยากดื่มกับเซเรสคุงสักครั้งนะและฉันก็มีเครื่องดื่มแสนพิเศษสำหรับนายด้วยนะ”

 

 “บรั่นดี?”

 

 มันเป็นเครื่องดื่มที่ไม่ธรรมดาเลย (เหล้านั้นแหละ)


"เซเรสคุงนายรู้ใช่มั้ยว่านอกจากคาซุมะแล้วนายเป็นคนเดียวในหมู่บ้านนี้ที่เข้าใจฉัน นายช่างเป็นคนที่ฉลาดจริงๆ"

 

 มีเหตุผล แปลก คนอื่นมังพูดแบบนั้นเกี่ยวกับชูโตะ... แต่เขาน่ะเป็นคนที่ฉลาดจริงๆ

 

 บางทีถ้าเขาไม่ได้เกิดในหมู่บ้าน เขาอาจจะได้เป็นนักวิชาการ นักเขียน หรือไม่ก็อาชีพที่สมองอันอื่นก็ได้

 

 "แต่คุณก็ฉลาดมากนะครับชูโตะซัง... คุณเอาของที่หายากและดีที่สุดมาให้ผมดูเสมอเลย..."

 

 "นายเองก็ยอดเยี่ยมมากจนไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายเป็นเด็กจริงๆ... นายเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ฉันไม่เคยเบื่อที่จะคุยด้วยเลย..."


 

 ชูโตพซังสอนฉันเรื่องตัวอักษรและคณิตศาสตร์เป็นส่วนใหญ่

 

 แม้ว่าฉันจะเป็นคนกลับชาติมาเกิด แต่ฉันก็ต้องเริ่มจำทีละอย่างเพราะความทรงจำของฉันไม่สมบูรณ์

 

 ชูโตะซังชมฉันว่า 'นายซึมซับความรู้ของเขาได้เร็วมาก' และเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

 

 เพราะว่ามีคนไม่มากนักในหมู่บ้านนี้ที่อ่านออกเขียนได้ เราเลยเป็นเพื่อนกัน

 

 "ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากชูโตะซังด้วยนะครับ"

 

 "ก็จริง... ถึงอย่างนั้น ฉันก็แปลกใจที่เด็กอายุแค่ 5 ขวบสามารถอ่านออกเขียนได้อย่างสมบูรณ์แบบ... ฉันขอให้นายดูแลร้าน เพื่อที่ฉันจะได้อ่านหนังสือ... และเพราะว่านายชอบหนังสือ ฉันช่วยอะไรไม่ค่อยได้แต่ก็ขอให้นายช่วยฉัน”

 

 บางทีเขาคนนี้อาจจะมาเกิดผิดหรือโลกก็ได้นะเนี่ย

 

 ถ้าเขาเกิดในโลกชาติก่อนของฉัน เขาจะได้เป็นนักวิจัย และถ้าเขาเกิดในโลกนี้ในเมืองหลวง เขาจะได้เป็นนักวิชาการที่ประสบความสำเร็จแน่นอน

 

 “คุณสอนผมอ่านและให้ผมยืมหนังสือที่มีค่าของคุณ”

 

 "ในทางกลับกัน ฉันก็ให้นายเฝ้าร้านไง...และช่วยหยิบของ การให้และการรับ มันไม่มีปัญหาเลย...และดื่มให้หมดด้วยละนี่มันอร่อยมากเลยนะ"

 

 "ทานละนะครับ"

 

 ด้วยบรั่นดีในมือเราก็ได้คุยกันหลายเรื่องอยู่พักหนึ่ง

 

 ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ฉันเคยอ่านในอดีต คณิตศาสตร์บ้างเล็กน้อย... และการเดินทางของฉัน

 

 ฉันพูดและชูโตซังก็พูด

 

 พวกเราอายุต่างกันแต่...ก็คุยกันสนุกถูกคอ

 

 ฉันเป็นคนที่กลับชาติมาเกิด... และคุยกับชูโตะและคาซุมะทำให้ฉันนึกถึงเรื่องนั้น

 

 ถึงแซ็คและมาเรียจะดีเช่นกัน

 

 แต่ฉันอดไม่ได้ที่จะคิดว่าพวกเขาเป็นเด็ก และฉันก็ไม่สนุกกับเรื่องราวของพวกเขา

 

 ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว...

 

 "ฉันน่ะชอบคุยกับนายและคาซุมะนะ... ฉันไม่ค่อยชอบคุยกับคนอื่นเท่าไหร... นายก็เหมือนกันใช่ไหมละ? ตอนที่นายคุยกับแซ็คและมาเรียนายดูเบื่อมากใช่ไหมละ? ทำไมละ?" 

 

 ฉันไม่สามารถปฏิเสธได้

 

 ฉันไม่เคยโกรธการเดินทางกับแซ็ค ลิด้า มาเรียและเมลเลยซักนิด

 

 'พวกเขาเป็นแค่เด็ก' หรือ 'มันก็แค่เรื่องเด็กๆฉันทนได้' บางทีนั่นอาจเป็นสิ่งที่ฉันคิด


 

 มีครั้งหนึ่งแซ็คให้ฉันแอบดูสามสาวอาบน้ำด้วย

 

 แต่ฉันปฏิเสธ... ฉันไม่อยากไปไกลขนาดนั้น

 

 ท้ายที่สุดแล้ว... พวกเขาเป็น 'เด็กโดยสิ้นเชิง' สำหรับฉัน

 

 ฉันสนิทกับชูโตะมากกว่า

 

 "ใช่ครับผมชอบคุยกับชูโตะซังและพี่คาซุมะมากกว่าเล่นกับแซ็ค"

 

 “อย่างนั้นเหรอ? แต่ฉันไม่เหมาะที่จะเป็นพ่อคนหรือสามีเลยฉันพยายามรักษาภาพลักษณ์ไว้ แต่แม้แต่มาเรียลูกสาวของฉันก็ดูเหมือนสัตว์ประหลาดสำหรับฉัน... ฉันเกลียดเธอจริงๆ ตอนที่ฉันยังเป็นเด็กอยู่เพราะเธอน่ารำคาญมาก”

 

 “แต่สำหรับผมสิ่งเดียวที่ผมเห็นเกี่ยวกับชูโตะซังคือคุณทำหน้าที่ของพ่อแม่ปกติใด้ดีที่สุดเลยนะครับ คุณรู้ไหม?”

 

 ฉันคิดว่าเขาใส่ใจมากพอนะ

 

 “อย่างนั้นเหรอ? แต่ฉันเคยขอให้นายเฝ้าร้านและเอาสินค้าไปส่ง บางทีฉันอาจจะไม่ไว้ใจคนอื่นรวมถึงครอบครัวของฉันด้วยอะนะ”

 

 ทีนี่...จะตอบยังไงดีเนี่ย?

 

 "..."

 

 “อย่างไรก็ตาม ฉันเข้าใจว่าทำไมนายถึงมาที่นี่ในวันนี้… มันเป็นเรื่องของมิซากิใช่ไหมละ? ฉันไม่เป็นไรนายรับเธอไปได้เลย”

 

 “คุณไม่เป็นอะไรเหรอครับ?"

 

 “โอ้ ฉันบอกนายก่อนหน้านี้ไปแล้วใช่ไหมละ? ว่าฉันไม่เหมาะที่จะเป็นสามีนะ”

 

ไม่เหมาะ?

 

 นั่นหมายความว่ายังไงกันนะ?

 

 "แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นนะครับ"

 

 "ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่รักมิซากิแล้ว...ความรักของฉันอาจจะถึงจุดสูงสุดตอนที่มิซากิให้กำเนิดมาเรีย แต่ความรักของฉันที่มีต่อเธอก็ค่อยๆ จางหายไป และตอนนี้เราก็แทบไม่ได้คุยกันที่บ้านเลย... จะดีกว่าไหมถ้านายจะพาเธอไป... และนายคือคนที่รักมิซากิมานานแล้วใช่ไหมละ?"

 

 "คุณรู้อย่างงั้นเหรอครับ?"

 

 "ฮ่าๆๆๆ คิดว่าฉันจะไม่รู้เหรอ? จำตอนที่มิซากิอาบน้ำให้นายตอนเด็กๆ ได้ไหมละ? หน้านายแดงมากเลยฉันรู้ว่านายมันเป็นพวกบาบาค่อน(ยม.)ตั้งแต่ที่นายยังเด็ก... อย่างน้อยฉันกับคาซุมะก็รู้เรื่องนั้นนะ"

 

 "ผมขอโทษครับ"

 

 “แต่ฉันไม่คิดว่านายจะหมกมุ่นจนถึงอายุเท่านี้ ก็นายเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กแล้วเด็กหนุ่มแบบนั้นอาจตกหลุมรักผู้หญิงที่เหมือนแม่ก็ได้ มันไม่ได้วิปลาสหรอกนะ(ปัญหาทางจิตหรือต่างจากสังคมในทางที่เข้าขั้นสถุน) มันอาจเกิดขึ้นได้ถ้ามีคนเจอเหตุการณ์แบบนั้นไม่ต้องห่วง หรือบางนายอาจจะเป็นพวกนิยชอบแนวมิฟหรือบาบาค่อนอยู่แล้วก็ได้… อย่างไรก็ตาม นายสามารถทำให้มิซากิมีความสุขได้... ใช่ไหม?”


"ใช่ครับ"

 

 ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว มิซากิก็ยืนอยู่ข้างๆฉันสะแล้ว

 

 "ฉันจะฝากเธอไว้กับเขานะ... มิซากิ ไม่เป็นไรนะ?"

 

 "อืม... ขอบคุณสำหรับทุกอย่างจนถึงตอนนี้นะ"

 

 "ขอบคุณเช่นกัน"

 

 “แล้วคุณจะทำอย่างไรต่อไปละครับชูโตะซัง”

 

 "ฉัน? ฉันดีใจมากที่เธอถาม! ฉันจะซื้อทาส... ตั้งแต่นายมารับตัวมิซากิที่น่าเบื่อไปจากฉันและมาเรียก็ไม่อยู่ที่นี่แล้ว... ฉันจะซื้อสาวงามที่ฉลาด ขยัน ตั้งใจเรียน ...เพื่อเราจะได้คุยกันแบบ’ดีๆ’... ฉันจะซื้อทาสชั้นสูงมา ...ฉันแน่ใจว่าทาสชั้นสูงบางคนมีความรู้มากมาย...แบบฉัน...เป็นคนที่ฉลาด... เอ๊ะ?”

 

 "ฉันขอโทษที่ฉันไม่น่าสนใจสำหรับนายนะชูโตะแต่เราไปดูดาวกันสักพักดีไหม?"


 

 "มิซากิ... เธอไม่ใช่เมียฉันแล้ว... ดังนั้นเธอไม่มีสิทธิ์มาตบฉัน... เซเรสคุง พาเธอกลับไปเร็ว..."

 

 "มิซากิซังกลับบ้านกันเถอะครับ"

 

 "ได้เลย เซเรสจัง... แค่นี้ก็พอแล้ว"

 

 ฉันแน่ใจว่าชูโตะพูดเรื่องโง่ ๆ เหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงความอึดอัดใจ

 

 ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่พูดแบบนั้น นิ่ง...

 

 'ขอบคุณครับ'

 

 ฉันขอบคุณเขาในใจและออกจากร้านของชูโตะ

 

 “เอาล่ะ ฉันจะอ่านหนังสือให้มากเท่าที่ฉันต้องการเลย...”

 

 แบบนี้ถูกแล้วใช่มั้ยนะ? ฉันว่างั้นนะ...