ตอนที่ 79 ไม่สิ มันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ…เป็นไปไม่ได้หรอก
「พี่คาซึมะ」
「ครับๆ นี่พี่คาซึมะเอง」
จะว่าไปทำไมเขาดูแปลกๆไปนะ....รู้สึกเหมือนไม่ใช่พี่ชายผู้แสนอ่อนโยนที่คอยดูแลฉันเหมือนนเมื่อก่อนเลย
「เอ่อคือว่า...นี่พี่」
「ว่าแล้วเชี่ยว...นายมีปัญหาอยู่สินะ..ถึงฉันจะเป็นหนี้บุญคุณนายอยู่...แต่ว่าขอโทษทีนะ เรื่องนี้ฉันคงช่วยนายไม่ไหวหรอก」
มีอาหารและเครื่องดื่มอยู่บนโต๊ะมากมาย
พอผมรู้ว่าพี่คาซึมะมาเปิดร้านอาหารที่เมืองหลวง ผมก็เลยกะจะมาพึ่งพาเขาสักหน่อย
บอกตามตรงว่าตอนนี้ผมโคตรจะกลัวเหล่าภรรยาของผมเลย
ผมก็เลยอยากจะมาขอให้พี่คาซึมะเขาช่วยอะไรสักหน่อย แต่เขากลับบอกปัด
ถึงจะเข้าใจดีก็เถอะ ถึงจะรู้ดีก็เถอะ
「นะ พี่คาซึมะ」
「ช่วยไม่ได้สินะ....งั้นฉันจะสอนท่าพิเศษที่ช่วยชีวิตนายได้แล้วกัน…」
พี่คาซึมะทำการยื่นมาออกมาก่อนจะวางมันลงแนบกับพื้น...ไอ้นี่มันโดเกซะ(คุกเข่าก้มหัวขอคมา)ไม่ใช่เหรอไงฟะ
「พี่คาซึมะ....」
「นี่แหละสุดยอดท่าไม้ตาย! ก้มกราบนิ่งๆอย่างได้ทำอะไรโง่ๆ...เดี๋ยวพายุก็จะผ่านไปเอง」
ก่อนจะลุกขึ้นมายกนิ้วให้กับฉันด้วยใบหน้าอันหล่อเหลา
จากนั้นฉันก็มองไปเห็นสายตาของคุณแมรี่ที่เป็นภรรยาของพี่คาซึมะ
「อ่ะ เอ่อคือ」
「ไม่เป็นไรหรอกจ่ะ เซเรสซังเชิญร้องไห้ตรงนั้นได้เต็มที่เลย...คาซึมะเองก็ช่วยปลอบใจเขาไปอีกสัก 5 ชั่วโมงเลยก็ได้นะ」
ฉันชักไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณแมรี่พูดซะแล้วสิ
「เอ่อ จะดีเหรอแมรี่?」
「เซเรสเขาเป็นถึงวีรบุรุษผู้เอาชนะแมมมอนได้มาอยู่ที่ร้านแห่งนี้แล้ว! หากท่านสั่งอาหาร 2 ชุด พร้อมกับเครื่องดื่ม 1 แก้ว ทางเราจะจัดที่นั่งให้กับท่านในจุดที่ใกล้กับเขา――」
คุณแมรี่เริ่มออกไปเรียกแขก
โกหกใช่ไหม...ทันทีที่เธอประกาศออกไปคนก็แห่กันมารวมตัวเต็มร้านเลย
ที่นั่งทุกที่เต็ม...จนทางเข้าออกของร้านเบียดเสียดกันไปหมด
「ยอดขายของพวกเราซบเซามาระยะหนึ่งแล้วน่ะ ดังนั้นก็พักอยู่ที่นี่ไปก่อนนะ ฉันจะให้ยืมตัวคาซึมะฟรีๆเลย」
「เข้าใจแล้วครับ…」
ถึงความสามารถของเธอจะมีแค่การทำอาหาร แต่ระดับการทำอาหารก็ของก็เรียกได้ว่าเป็นแนวหน้า ถึงเธอจะต้องจัดการทุกอย่างเพียงคนเดียว แต่เธอก็สามารถรับแขกได้ถึง 30 คนอย่างไม่มีปัญหาใดๆ
พอพูดถึงเรื่องอาหารแล้ว...
「อร่อยชะมัดรสชาติดีกว่าของพี่คาซึมะอีก」
「ฮ่าๆๆ ใช่ไหมล่ะ ฉันในอดีตก็ไม่ต่างอะไรไปจากกบในกะลาเลย ถึงจะเป็นเจ้าของร้านนี้แต่สุดท้ายก็ได้แมรี่นี่แหละที่ช่วยฝึกฝีมือให้」
คนคนนี้ก็ยังน่าทึ่งเหมือนเดิม...อย่างที่คิดพี่ชายของฉันคนนี้ยังเป็นคนที่น่าชื่นชม
「แต่พี่คาซึมะก็ยังสุดยอดอยู่นะ」
「ไม่หรอกๆ ฉันก็แค่พยายามอย่างเต็มที่เท่านั้นเอง ถึงจะเป็นแมรี่แต่หากเทียบฝีมือภายในเมืองหลวงนี้ก็อยู่ในระดับธรรมดาเองนะ แต่อย่างน้อยมันก็เป็นสถานที่ที่ดีในการเริ่มต้นใหม่」
「ถึงอย่างงั้นพี่ก็พยายามได้อย่างน่าทึ่งแล้วครับ」
「ก็ไม่เท่านายหรอก...นายเป็นถึงวีรบุรุษผู้สังหารแมมมอนได้เลยนะ」
「พี่คาซึมะ...」
「ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะ...แต่ฉันอยากให้ช่วยเขียนอะไรตรงนี้นิดหน่อยได้ไหมเอ่ย」
คุณแมรี่ได้นำกระดานไม้ขนาดใหญ่มาให้ผม
อะไรกันล่ะนี่
「คือผมต้องทำอะไรกับกระดานนี้เหรอครับ?」
「ก็เขียนอะไรก็ได้ลงไปไง! เอาแบบนี้ก็ได้นะ 『วีรบุรุษเซเรสมาเยือน』...หากช่วยกันสักหน่อยเดี๋ยวทางนี้จะยอมให้กินหรือดื่มฟรีที่ร้านตอนไหนก็ได้เลยนะ」
「พี่คาซึมะไม่ใช่ว่าเราต้องเอารสชาติเข้า....」
「ยอมแพ้เถอะ...ฉันก็ขอด้วยคน」
「เข้าใจแล้วครับ...จะเขียนให้แล้วกัน」
เห็นแล้วก็แอบน้ำตาตกใน ฉันไม่อยากจะเห็นพี่คาซึมะต้องไปก้มกราบภรรยาอีก...นี่สินะ สิ่งที่พี่คาซึมะอยากจะสอนถึงเรื่องการขอโทษอีกฝ่าย...แบบนี้นี่เอง
(สอนให้บูชาเมีย)
พี่คาซึมะ...ขอบคุณมากครับ
「สำเร็จแล้ว! แมรี่ แค่นี้ร้านของพวกเราต้องไปรอดแน่....อ๊ะ จริง นายพอจะมีของที่ระลึกอะไรที่ได้มาจากการจัดการแมมมอนบ้างไหม...ฉันอยากจะเอามาประดับร้านสักหน่อยน่ะ…」
จะให้แมมมอนไปเลยก็เป็นปัญหา จะให้เป็นค้อนก็คงไม่ไหว
ไอ้นี่น่าจะได้อยู่มั้ง....
「พี่คาซึมะ ถ้าอันนี้ล่ะเป็นไง」
「มันคืออะไรเหรอ?」
「เป็นของที่ผมใส่ไปตอนจัดการกับแมมมอนน่ะ...เพราะไม่ค่อยมีเงินไปซื้ออุปกรณ์ดีๆ ดังนั้นมันก็เลยไม่ใช่ของที่ดูแพงอะไร...」
「ขอบคุณนายมากเลย...แมรี่ เดี๋ยวฉันไปซื้อกรอบมาไว้ติดโชวว์ก่อนนะ จากนี้ไปคงได้ฤกษ์เปลี่ยนชื่อร้านเป็นร้านอาหารเซเรส แล้วก็ติดชื่อสถานแห่งวีรบุรุษไว้ข้างล่างก็ไม่เลว」
「ไอเดียไม่เลวเลย หากเป็นแบบนี้กิจการในเมืองหลวงของพวกเราไปรอดแน่」
ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดขอโทษอยู่ภายในใจ...แต่บอกตามตรงการรับมือกับผู้หญิงมันน่ากลัวกว่าออกไปสู้กับแมมมอนอีก
กลับบ้านดีกว่า
「ถ้างั้นพี่คาซึมะผมขอตัวก่อนนะ」
「โอ้ว ทางนายก็พยายามเข้าล่ะ」
ฉันเดินออกมาโดยมีร้านของพี่คาซึมะอยู่เบื้องหลัง
◆◆◆
「ต้องขอโทษจริงๆครับ」
ทันทีที่กลับถึงห้องผมก็โดเกสะในทันที
「โถ่ เซเราคุง ฉันไม่ได้โกรธเธอสักหน่อย」
「เซเรส นายไม่ต้องโดเกสะทันทีที่กลับมาก็ได้นะ」
「นั่นสินะคะ เซเรสซัง」
「เซเรสจังพวกฉันไม่ได้โกรธหรอกนะ」
ถึงพวกเธอจะพูดแบบนั้น แต่สีหน้าของพวกเธอมันเหมือนจะไม่บอกแบบนั้นเลย
เมื่อผมค่อยๆเงยหัวขึ้นจากสภาพคุกเข่ากับพื้นก็พบว่า
「โฮ่ ท่านเซเรส ทำได้ดีมากเลยในการต่อสู้คราวนี้ แซมมาร์คผู้นี้ขอแสดงความยินดีจากใจจริง」
ราชาแซมมาร์ค...
ดีใจจริงที่ได้เห็นเขาตอนนี้ ถ้าเขายังอยู่ที่นี่ก็หมายความว่า ฉันรอดแล้วใช่ไหม?
「น่ายินดีจริงๆ ที่ท่านราชามายังที่แห่งนี้」
「โถ่ท่านพูดอะไรกัน...ทั้งทางโป๊ปกิตติมศักดิ์แล้วก็โป๊ปเองก็ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการต่อชาวโลกแล้วว่า บุคคลที่ยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดบนโลกนี้ก็คือท่านเซเรส แน่นอนว่าทางข้าก็อยากจะมอบชื่อเสียงและตำแหน่งชนชั้นให้กับท่าน แต่สถานะพวกนั้นก็มีแต่จะรั้งชีวิตท่านเอาไว้ ดังนั้นข้าก็เลยนำสมบัติและมาริแอนมาเป็นการตอบแทน ตามที่สัญญาเอาไว้ในอดีตแทน…」
เมื่อกี้เขาว่าอะไรนะ เหมือนฉันจะได้ยินไม่ชัด
「เอ่อ ชิซุโกะซัง..คือว่า」
「หลังจากคุยกับเซเรสคุงเสร็จ...ทางศาสนจักรเขาก็ประเทศออกมาทันทีเลยนะ อุฟุฟุฟุ ศาสนจักรนี่ดำเนินเรื่องได้เร็วจริงๆ นอกจากนี้เดี๋ยวจะมีพวกโป๊ปเดินทางกันมาที่นี่ด้วยนะ คิดว่าเดี๋ยวทางจักรวรรดิก็น่าจะมาเหมือนกัน」
「เซเรส เห็นว่านายได้รับปราสาทที่โคฮาเนะแล้วก็ดินแดนรอบๆมาด้วยนี่นา เซเราของพวกเราช่างยิ่งใหญ่จริงๆ และการได้เป็นจ้าวประสาทโคฮาเนะมันก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นลอร์ดของดินแดนนั้น เรื่องจัดการภาษีคงลำบากหน่อยนะ」
「ผมต้องทำจริงเหรอ?」
「จริงด้วยสิคะ! เซเรสซัง ทางศาสนจักรได้ส่งประกาศนี้ออกไปทั่วโลกด้วย」
「ยินดีด้วยนะเซเรสจัง...เห็นทีพวกเราคงต้องรอต้อนรับเซซิเลียจังเข้ามาด้วยแล้วสิ ไหนจะเรื่องการหมั้นหมายกับมาริแอนจังด้วย」
ชักตามไม่ทันแล้วสิ
「นอกจากนี้ก็มีเรื่องของจักรวรรดิที่ได้เลือกเซเรสให้เป็นคู่แต่งงานกับท่านเฟรด้วยนี่เนอะ....ตอนนี้นายก็จะได้เป็นว่าที่จักรพรรดิอยู่หรอก แต่พอทางศาสนจักรประกาศว่านายคือผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็เลยไม่ต้องรับตำแหน่งนั้น โชคดีจริงๆ」
「ชิซุโกะซังครับ คือผมอยากจะขอปรึกษาเรื่องพวกนี้สักหน่อย...」
「เซเรสคุงจ๊ะ การยอมแพ้ก็เป็นเรื่องสำคัญนะ เว้นเสียแต่เธอจะย้อมละทิ้งทางโลกทุกอย่าง แต่ก็เป็นไปไม่ได้นี่เนอะ」
「ก็เป็นอย่างงั้นแหละ เดี๋ยวนายจะได้รับรู้เองว่า การที่ฉันได้ฉายารอยยิ้มเพชฌฆาตมามันทำให้ชีวิตหลังจากนั้นลำบากขนาดไหน」
「ก็นั่นสิเนอะ ถึงจะเลิกเป็นนักผจญภัยไปแล้ว...แต่สุดท้ายก็ยังมีคนจำพวกเราได้อยู่ดี ดังนั้นก็ยอมแพ้เถอะ」
ซาโยะพูดออกมาก่อนจะจ้องไปทางราชากับเจ้าหญิงมาริแอน
ราชาแซมมาร์คก็ทำสีหน้าปั้นยากออกมา
「เอ่อ เอาเป็นว่าข้าก็ได้พูดเรื่องที่จำเป็นไปหมดแล้ว จากนี้ก็ขอฝากมาริแอนไว้กับพวกท่านด้วย โปรดทำให้เธอมีความสุขที」
「ได้เลยค่ะ ท่านพ่อตา…」
「ถ้าเช่นนั้น ท่านเซเรส ข้าคงต้องขอตัวก่อน」
「เดี๋ยวก่อน…」
เขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของผมและวิ่งหนีไป
「ท่านเซเรส จากนี้ก็ขอฝากตัวด้วยนะคะ」
โดยทิ้งมาริแอนเอาไว้
「เอ่อ...พี่สาว...!」
「หายห่วงน่า หายห่วง มาริแอน เซซิเลีย แล้วก็เฟรต่างก็รู้จักกันดี นายไม่ต้องกังวลหรอก...ดังนั้นก็อยู่เงียบๆแล้วยอมรับมันเสียเถอะ」
「งั้นเหรอครับ..สุดท้ายผมก็ไม่มีทางเลือกเลยสินะ」
「เดี๋ยวทางจักรพรรดิกับโป๊ปน่าจะมาถึงพรุ่งนี้นะ พยายามเข้าล่ะ」
มันจะไม่มีทางออกอื่นให้กับฉันเลยงั้นเหรอ นี่ฉันมีแต่ต้องก้มหน้ารับชะตาเหรอ?
ไม่สิ มันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ....เป็นไปไม่ได้หรอก
ชักรู้สึกเสียใจที่ไปสู้กับแมมมอนซะแล้วสิ