หน้าหลัก > เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย) > ตอนที่ 76

ตอนที่ 76 - การรักษา

เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย)


ตอนที่ 76 การรักษา




มุมของนักบุญเซซิเลีย




ฉันได้เห็นร่างอันสง่างามของเขาผ่านคริสทัลสื่อสารก็รู้สึกปราบปลื้มจนทนแทบไม่ไหวครั้งหนึ่งฉันเองก็เคยเข้าไปท้าทายจอมมารและพ่ายแพ้กลับมา


 


ในตอนนั้นทั้งผู้กล้าและปราชญ์ที่ร่วมต่อสู้กับเธอต่างถูกฆ่าไปอย่างง่ายดาย


 


ตัวฉันเองก็คิดว่าคงไม่ต่างกันนัก แต่ก็ต้องขอบคุณท่านอาจารย์ชิซุโกะและท่านซาโยะ เจ้าหญิงหยาดเหมันต์ (จำไม่ได้ละว่าเคยแปลว่าอะไร อันนี้ของ eng : Teary-eyed Ice Princess) ที่ได้ทำข้อตกลงกับจอมมารจนทำให้ฉันและนักบุญดาบเฟร สามารถกลับมาได้


 


ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฉันก็คิดมาเสมอว่าหากเป็นการต่อสู้ไม่มีหรอกคำว่าขี้ขลาดชีวิตหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรดีนัก การแต่งงานก็แสนห่วยแตก...ดังนั้นฉันก็เลยไม่ชอบพวกผู้ชายและกลายมาเป็นซิสเตอร์แทนแม้จะอายุปูนนี้แล้ว แต่อยู่มาวันหนึ่งโป๊ปกลับนำเรื่องการแต่งงานเข้ามาคุยกับเธอ


 


โดยเขาเป็นเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าฉันไปครึ่งหนึ่งหน้าตาของเขาก็ไม่ได้แย่อะไร ยิ่งไปกว่านั้นแอบดูน่ารักด้วยซ้ำ






ผู้สังหารมังกร...แค่คิดก็รู้แล้วว่าเขาน่าทึ่งขนาดไหน






ฉันก็อายุปูนนี้แล้ว เลยไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นจะต้องการฉันอยู่ไหม






นอกจากนี้ผู้หญิงรอบตัวของเขาก็มีแต่ระดับสุดยอด....ทั้งอาจารย์ชิซุโกะแล้วก็ภรรยาอีก 3 คนของเขา








ถึงตอนแรกจะรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา ทว่า






สิ่งที่เขามีอยู่มันไม่ใช่เพียงแค่นั้น






ตัวเขาคือผู้กล้าที่แท้จริง ที่ฉันอยากจะสู้เคียงข้างด้วย






ความกล้าที่ไม่เกรงกลัว แม้จะต้องเผชิญกับพลังอำนาจที่แสนไร้เหตุผล






ช่างเป็นโชคของศาสนจักรที่ทำให้ฉันได้มาพบกับผู้กล้าตัวจริงเช่นนี้






หัวใจของฉันเต้นระรัว...เมื่อเห็นความสิ้นหวังตรงหน้าได้แปรเปลี่ยนเป็นความหวัง การดำรงอยู่ของเขาคือพรจากสวรรค์






นี่สินะสิ่งที่เรียกกันว่าความรัก






ในที่สุด...ฉันก็ได้พบกับคนที่ฉันพร้อมจะรักจากก้นบึ้งของหัวใจ










◆◆◆








「หน่วยฮิลเลอร์ แมมมอนได้ถูกพาตัวออกไปแล้ว รีบเข้าไปช่วยเหลือชาวเมืองเร็วเข้า」






วีรบุรุษเซเรสได้สยายปีกของเขาและลากตัวแมมมอนออกไปจากเมือง










ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาจะต้องนำชัยมาสู่พวกเราเป็นแน่






ตอนนี้พวกฮิลเลอร์จำนวนมากได้รับคำสั่งจากโป๊ปโรสแมนให้มาเตรียมตัวช่วยเหลือชาวเมือง




ส่วนทางด้านฉันกับโป๊ปโรสแมนก็ได้เข้ามาในเมือง






ก่อนจะเข้าไปภายในเต็นท์พร้อมกับขยะทั้ง 4 ชิ้น










「เราควรจะทำเช่นไรกับคนพวกนี้ดีคะ ท่านโป๊ปกิตติมศักดิ์โรสแมน」






「แล้วทางเจ้าล่ะ? ก็จริงว่าหากพวกนี้ยังเป็นผู้กล้าและนักบุญอยู่ข้าก็ไม่ลังเลที่จะใช้อิลิกเซอร์ในการรักษาพวกเขา...แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดา เอาเป็นว่าก็ฮีลให้แล้วปล่อยไปตามเวรตามกรรมแล้วกัน」








「ไม่นะ ช่วยฉันด้วยเถอะ」








「ช่วยฉันเถอะ ขอร้องล่ะ ฉันขอร้อง」








「มือกับเท้าของฉัน ได้โปรดช่วยด้วย」








「ช่วยฉันด้วย」






「โฮ่? ถ้าเช่นนั้นทำไมพวกเจ้าถึงละทิ้งหน้าที่ของตัวเองกันล่ะ ทำไมยังต้องการสิทธิ์ของผู้กล้าในการเข้าถึงอิลิกเซอร์ซึ่งเป็นสมบัติของชาติอีก สิ่งนี้แม้แต่ราชาก็ใช่จะหาได้โดยง่ายนะ...ตอนนี้พวกเจ้าก็เป็นได้เพียงอดีตผู้กล้า สามัญชนธรรมดาเท่านั้น!」








「ไม่จริงน่า…」








「ได้โปรดเถอะ ฉันไม่สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้แน่หากขาดมัน」








「ขอร้องเถอะคะ…」








「ได้โปรด ช่วยชีวิตฉันด้วยขอร้อง」






น่าสมเพชกันจริงๆ...ถ้าหากคนพวกนี้ยังเป็นผู้กล้าอยู่ ฉันก็คงช่วยแบบไม่มีเงื่อนไขอะไร








「เนื่องจากว่าฉันเป็นหนี้บุญคุณท่านชิซุโกะกับท่านซาโยะ..ดังนั้นจะยอมช่วยก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ฉันก็มีเงื่อนไขบางอย่างต่อด้วย พร้อมจะยอมรับกันไหมคะ?」










「「「「ได้โปรดเถอะ…」」」」








「ยอดเยี่ยมค่ะ...ถ้าเช่นนั้นก็ขอให้พวกคุณช่วยเป็นสะพานในการเชื่อมระหว่างฉันกับท่านเซเรสด้วยแล้วกัน! ถึงมันจะไม่ใช่หน้าที่ แต่ถ้าเป็นการทำเพื่อว่าที่ลูกชายและลูกสาวในอนาคตของฉันแล้ว ก็ไม่มีปัญหา」






「ม-ไม่จริงน่า เซเรสไม่ได้ชอบคนแก่ขนาดนี้สักหน่อย ก็จริงว่าเขาชอบแม่ของฉัน แต่นั่นก็เป็นเพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กต่างหาก ก็เลยรักเหมือนกับเป็นแม่...โอ๊ยยยย เจ็บๆๆๆ หยุดเถอะขอร้อง」






「แก่งั้นเหรอคะ? ดูเหมือนว่าคนแบบคุณจะไม่ต้องการแขนขาแล้วสินะ? หรือฉันควรจะทิ้งให้พวกคุณตายแล้วไปร้องไห้ต่อหน้าท่านเซเรสก่อนจะบอกว่ามาช่วยไม่ทันดีล่ะ?」






「เข้าใจแล้วน่า เข้าใจแล้ว ดังนั้นได้โปรดเอาเท้าของคุณออกจากมือของแซ็คเถอะ」








「ฉันจะช่วยคุณเอง ฉันจะสนับสนุนความรักของคุณให้เป็นจริงเอง」








「เข้าใจแล้วค่ะ คุณแม่สินะ คุณแม่....」






「ค่ะ เข้าใจกันก็ดีแล้ว คุณแม่สิเนอะ ฟังแล้วรู้สึกมีความสุขจริงๆ ถ้าเช่นนั้น ท่านโป๊ปกิตติมศักดิ์โรสแมนคะ ขอรบกวนด้วยค่ะ」








「่ช่วยไม่ได้สินะ...เอ้านี่ อิลิกเซอร์ แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับทุกคนแล้ว」








「ขอรับไว้ด้วยความยินดีเลยค่ะ」






จากนั้นฉันก็เทอิลิกเซอร์ใส่บนแขนขาของพวกเขาทั้ง 4 








จากนั้น










「กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วนะคะ」






เพราะฉันไม่สามารถใช้เฟอร์เฟ็กฮีลได้ดีนัก




ดังนั้นอิลิกเซอร์จึงเป็นส่วนเสริมในจุดที่ขาด






ดูเหมือนว่าการรักษาจะเป็นไปได้ด้วยดี










「จากนี้ก็รักษาสัญญาด้วยนะ」






หลังพูดจบฉันกับโป๊ปกิตติมศักดิ์โรสแมนก็ออกจากเต็นท์ไป








◆◆◆










「คนเหล่านี้เองสินะที่เป็นพวกนอกรีต?」








「ใช่แล้วครับ ท่านโรสแมน」






「เดี๋ยวสิ ทำไมข้าถึงเป็นคนเดียวที่โดนลากมาตรงนี้ล่ะ ทำไมยังไม่ยอมรักษาข้าอีก?」








「พาฉันกลับไปหาแม่เดี่ยวนี้เลยนะ...แล้วก็รักษาขาของฉันที――」








「ทำฉันไมถึงมาอยู่ตรงนี้กัน」








「ทำไมพวกท่านถึงไม่ยอมรักษาพวกเรากัน」




「นี่พวกเจ้ายังไม่เข้าใจกันอีกงั้นหรือ? มันก็เป็นเพราะพวกเจ้าปฏิบัติต่อท่านเซเรสเหมือนเป็นสัตว์ประหลาดยังไงล่ะ ดังนั้นสุดท้ายนี้ข้าจะถามอีกครั้งว่าพวกเจ้าแต่ละคนคิดเช่นไรกับท่านเซเรส」








「ตัวตนที่แขนงอกออกมาได้แถมยังกินปีศาจเข้าไปอีก ยังไงก็ต้องเป็นสัตว์ประหลาดอยู่แล้วไม่ใช่หรือไงกัน」








「เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่มนุษย์…」










「เช่นนั้นหรือ? ขอบคุณความคิดเห็นอันมีค่าของพวกเจ้า....อัศวินศักดิ์สิทธิ์ฆ่าสองคนนี้เสีย!」








「ฮ่ะ」






ท่านโรสแมนสั่งฆ่าพวกนอกรีตสองคนนั้นทันที








มันก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่เนอะ








「พวกเจ้าที่เหลือจงคิดดูเสีย...ท่านเซเรสที่ต่อสู้แบบเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องพวกเจ้าจะเป็นสัตว์ประหลาดไปได้จริงหรือ? คนที่กล้าพูดแบบนั้นได้ก็คงจะมีแต่พวกมนุษย์ที่ฝั่งใฝ่ในปีศาจเท่านั้นแหละ ที่พวกเจ้ายังมีชีวิตกันอยู่ได้ก็เพราะท่าน หากไม่ใช่เพราะท่านเซเรสพวกเจ้าคงได้ตายกันไปหมดแล้ว....แล้วพวกเจ้ายังกล้าจะเรียกท่านว่าเป็นสัตว์ประหลาดอีกงั้นหรือ หากเป็นอย่างที่พวกเจ้าว่าจริง ข้าก็จะสร้างโลกที่ไม่มีท่านเซเรสปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเจ้าเอง โลกแห่งความตายยังไงล่ะ....เอาล่ะทีนี้พวกเจ้ายังจะคิดว่าท่านเซเรสเป็นสัตว์ประหลาดอยู่อีกไหม?」






ท่านโรสแมนวาจาช่างคมคายอย่างที่คิด






「ท่านเซเรสคือผู้ช่วยชีวิตของพวกเรา จากนี้ไปฉันจะขออธิษฐานต่อหน้าเทพธิดาทุกวันเพื่อขอบคุณในพระคุณนี้!!」






「ในที่สุดพวกเจ้าก็เข้าใจสินะ....ใครก็ได้ช่วยพาคนตรงนี้กลับเต็นท์ไปทำการรักษาที...จากนี้ไปก็อย่าลืมความรู้นั้นเสียล่ะ ส่วนพวกเจ้าที่เหลือหากเปลี่ยนใจแล้วก็ลองพูดมาสิ」






ไม่ต้องมีอะไรให้เป็นกังวลหากทุกคนนับถือบูชาท่านวีรบุรุษเซเรส การเสียสละอันโหดร้ายก็จะไม่เกิดขึ้นอีก






พวกคนส่วนใหญ่ที่มาตรงนี้ก็น่าจะเปลี่ยนใจกันเกือบหมดแล้ว








การฆ่าใครสักคนมันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดจริงๆ ถึงจะทำไปเพื่อท่านเซเรสก็ตามที






ฉันรู้สึกโล่งใจก่อนจะลดคทาเวทของตัวเองลง