หน้าหลัก > เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย) > ตอนที่ 42

ตอนที่ 42 - เมดและคาซุมะ

เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย)

42 เมดและคาซุมะ


เซ็คเตอร์ก็เหมือนคนอื่นๆ

 

 เพราะเขาไม่มีเงินฉันก็เลยให้เบี้ยเลี้ยง...

 

 และด้วยเหตุนี้จึงมีทาสอีกเพียงคนเดียวที่จะซื้อในนามของ "การคลุมถุงชน"

 

 ฉันจะแนะนำภรรยาของคาซุมะให้เขาและนั่นคือจุดจบ

 

 คาซุมะเป็นพี่ชายและพ่อของฉัน

 

 นอกจากนี้คาซุมะยังมอบฮารุกะให้ฉันด้วยจิตใจที่ดีของเขา

 

 ฉันอดไม่ได้ที่จะคิดอย่างนั้น

 

 เพราะฉันมองเขาด้วยความอิจฉาเสมอ... และฉันก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าเขามอบเธอให้ฉัน

 

 * * *

 

 ฉันรู้ว่าคาซุมะต้องการทาสแบบไหน

 

 (เมด)แม่บ้าน

 

 "พี่คาซุมะเป็นคนสุดท้ายแล้วครับ... คุณต้องการอะไร ยังเหมือนกับที่บอกผมก่อนหน้านี้หรือเปล่าครับ?"

 

 “ใช่ นายทำอย่างนั้นให้ฉันได้ไหม?”

 

 “แต่ผมขอถามอะไรหน่อย...”

 

 “มันเกี่ยวกับฮารุกะใช่มั้ย?”

 

 "พี่คาซึลุมะน่ะ..."

 

 "อย่าพูดออกมานะ... เธอน่ะมีความสุขกับนายมากกว่าอยู่กับฉัน เซเรส... ฉันก็เลยเลิกกับเธอและอย่างที่นายรู้ ฉันเป็นพวกคลั่งการทำอาหาร... และเมื่อฉันได้วัตถุดิบที่ดี ฉันก็ไม่เคยออกจากครัวเลยฉันทำแบบนี้ตั้งแต่เราเพิ่งแต่งงานกัน... และทั้งหมดที่เรามีก็คือลูกสาวหนึ่งคน และนั่นคือทั้งหมดที่ฉันท่่เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัว ผู้คนบอกว่าเราเป็นนกเลิฟเบิร์ด แต่นั่นเป็นผลมาจากการที่ฮารุกะคิดถึงเรื่องของฉันก่อนแทนที่จะทำในสิ่งที่เธออยากทำ”

 

 "แต่..."

 

 “เฮ้ นายรู้ไหมว่าฮารุกะชอบตีนายยังไง ใช่ไหม เซเรส เธอไม่ตีฉันหรือใครทั้งนั้น… มันเป็นการแสดงความรัก… เซเรส นายเป็นคนพิเศษสำหรับฮารุกะตั้งแต่นายยังเด็ก ...เธอมีความสุขที่ได้อยู่กับนายมากกว่าอยู่กับฉัน...และนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด"

 

 สำหรับคาซุมะ อันดับหนึ่งคือการทำอาหาร... และฮารุกะน่าจะเป็นอันดับสอง

 

 เพราะแบบนั้น...รู้อยู่แก่ใจ...เลยทำอย่างนี้

 

 นั่นคือสิ่งที่เขาพูด

 

 * * *

 

 "ไม่เหมือนรอบก่อน ทาสคนนี้น่ะค่อนข้างธรรมดา... สาวใช้ที่ชอบทำอาหาร... ฮ่าฮ่าฮ่า นี่มันช่งคลาสสิคจริงๆ..." ออร์คแมนกล่าว

 

 สิ่งที่คาซุมะต้องการคือใครสักคนที่จะเดินไปในเส้นทางเดียวกัน

 

 ไม่มีใครแบบนั้นอยู่ในหมู่บ้าน

 

 นั่นเป็นเหตุผลที่เขาแต่งงานกับฮารุกะ

 

 ฮารุกะก็คงเป็นแค่คนทำอาหารธรรมดาเหมือนกัน

 

 และดูเหมือนเธอจะไม่สนใจมัน

 

 คิดดูสิ ฉันไม่เคยเห็นฮารุกะอยู่ในครัวเลย

 

 ฉันคิดว่าคาซุมะบังคับให้เธอทำตามความฝันของเขา

 

 และบางทีเขาอาจจะรู้สึกผิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น เขาเลยทำแบบนี้... นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากจะให้เป็นแบบนั้น

 

 * * *


กลับมาเข้าเรื่องกัน

 

 “คุณซื้อจะฉันอย่างนั้นเหรอคะ?”

 

 "ใช่ ฉันจะซื้อ..."

 

 “แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง ฉันต้องบอกคุณว่าฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากทำอาหารเลยค่ะ”

 

 แท้จริงแล้วเธอ…

 

 เธอเป็นสาวใช้ในตระกูลขุนนาง

 

 แต่เธอแตกต่างจากสาวใช้คนอื่นตรงที่เธอเป็นคนทำอาหารเท่านั้น

 

 สาวใช้ของตระกูลขุนนางและราชวงศ์มักถูกบังคับให้ทำหลายสิ่งหลายอย่างในช่วงแรก แต่บางคนก็จะกลายมาเป็นสาวใช้เฉพาะทาง


เช่น ถ้าทำความสะอาดเก่งก็จะทำความสะอาดบ้านตั้งแต่เช้าจรดค่ำโดยไม่ทำงานอื่นเพราะบ้านหลังใหญ่มาก

 

 ถ้าทำอาหารเก่งก็ทำอาหารตั้งแต่เช้าจรดค่ำเท่านั้นเพราะต้องทำกินกันหลายสิบหลายร้อยคน

 

 มีสาวใช้บางคนที่ทำได้ทุกอย่าง แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

 

 สาวใช้จำนวนมากที่รับใช้ขุนนางชั้นสูงและเชื้อพระวงศ์เป็น 'คนที่ทำหน้าที่เพียงอย่างเดียว'

 

 พวกเธอสามารถทำสิ่งหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่พวกเธอไม่เก่งในสิ่งอื่นๆ

 

 สาวใช้แบบนั้นถือเป็นเรื่องปกติ

 

 "นั่นคือสิ่งที่ฉันกำลังหาเลย คนที่ฉันจะแนะนำให้เธอรู้จักคือคนที่ใช้ชีวิตเพื่อ 'การทำอาหาร' เหนือสิ่งอื่นใด... ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ดีที่สุดที่เขาทำคือ 'การทำอาหาร'... และ บทสนทนาส่วนใหญ่ที่จะคุยกันก็มักจะเกี่ยวกับการทำอาหาร "

 

 "ถ้าอย่างนั้นฉันก็มั่นใจเลยค่ะ! ฉันเป็นกุ๊กตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และเป็นเวลา 7 ปีจนถึงอายุ 15 ปี ฉันช่วยทำอาหารตั้งแต่เช้าจรดค่ำ หัวหน้าเชฟบอกฉันว่า 'การทำอาหารและการเสิร์ฟของเธอนั้น สง่างาม'...แต่...นอกเหนือจากนั้น ฉันทำความสะอาดและซักผ้าไม่ได้เลยค่ะ"


“ไม่เป็นไร… เพราะนั่นคือผู้หญิงแบบที่เขากำลังมองหาเลยละ”

 

 "ก็ดีนะ~ เพราะผู้ชายส่วนใหญ่อยากให้สาวใช้ทำงานบ้านทั้งหมด คนแบบฉันก็เลยขายไม่ออกเลยค่ะ... ฉันดีใจจัง..."

 

 ผู้หญิงคนนี้สมบูรณ์แบบ

 ฉันแน่ใจว่าคาซุมะจะต้องชอบเธอ

 

 และ...มันทำให้เขาชื่นชมฮารุกะด้วย...ใช่ นี้แหละสุดยอดไปเลย

 

 * * *

 

 "นี่เธอครับ"

 

 "ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อแมรี่ค่ะ"

 

 อย่างที่ใคร ๆ คาดหวังจากสาวใช้ผู้สูงศักดิ์ มารยาทของเธอนั้นไร้ที่ติ แม้ว่างานหลักของเธอคือการทำอาหารก็ตาม

 

 "เซเรส ฉันชอบรูปร่างหน้าตาของเธอ... แต่... เธอตรงตามที่ฉันบอกไหม?"

 

 "นั่นไม่ใช่ปัญหา แมรี่รับผิดชอบการทำอาหารที่บ้านของขุนนางและได้รับคำชมจากหัวหน้าพ่อครัว... ดังนั้นเธอเลยสามารถช่วยพี่คาซุมะได้แน่นอนครับและผมคิดว่าพวกคุณคงมีช่วงเวลาที่ดีในการพูดคุยเกี่ยวกับการทำอาหารด้วยกันครับ"

 

 "เยี่ยมไปเลยแล้วแมรี่ซังล่ะครับ...? ผมน่ะชอบทำอาหารครับ แล้วก็คิดถึงการทำอาหารตลอดเวลา... ถ้าคุณพรากการทำอาหารไปจากผม ก็คงไม่เหลืออะไรแล้ว... คุณโอเคไหมครับ?”

 

 "ฉันใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากทำอาหารค่ะ... และนั่นคือทั้งหมดที่ฉันทำได้... คุณโอเคไหมคะ?"

 

 "นั่นแหละใช่เลยครับขอบคุณ"

 

 "ค่ะ"

 

 ตอนนี้ทุกคนมีทาสในอุดมคติ

 

 ในทางใดทางหนึ่ง มันเป็นการขอบคุณ และในอีกทางหนึ่ง เป็นการตอบแทนแซ็คและคนอื่นๆ เล็กน้อย

 

 * * *


ฉันเลือกทาสในอุดมคติเพราะคาซุมะดูแลฉันดีจริงๆ

 

 เหลือเพียงสิ่งเดียวที่ต้องทำในอนาคต

 

 คู่สามีภรรยาจำเป็นต้องใกล้ชิดกัน

 

 'มันแย่ที่ฉันปล่อยให้ฮารุกะไปกับความเห็นแก่ตัวของฉัน' เป็นความใจดีของคาซุมะและฉันคิดว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่

 

 ฉันคิดว่าฮารุกะพนันกับคาซุมะไว้

 

 ความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงจะดำรงอยู่ได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสนับสนุนอีกฝ่ายหนึ่ง

 

 ถ้าคนหนึ่งทำตามความฝัน อีกคนต้องเป็นคนที่สนับสนุนเขา/เธอ ไม่งั้นก็อยู่ด้วยกันไม่ได้


ฉันคิดว่ามันคล้ายกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้กล้ากับนักบุญ

 

ผู้กล้าคอนต่อสู้และพอเขาได้รับบาดเจ็บนักบุญจะรักษาเขา

 

 ถ้ามีผู้รักษาสองคน พวกเขาตะไม่สามารถต่อสู้ได้ และหากมีนักสู้สองคน บาดแผลของพวกเขาจะถึงแก่ชีวิต

 

 ดังนั้นคาซุมะและฮารุกะน่าจะเป็นคู่รักในอุดมคติ

 

 แต่คาซุมะต้องการ 'เพื่อนร่วมทาง' ที่เดินไปในเส้นทางเดียวกัน

 

 บางทีพวกเขาอาจจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในอนาคต

 

 ไม่มีคนช่วยทำความสะอาด ซักผ้า และอื่นๆ

 

 อย่างใดอย่างหนึ่งอาจพังหรือจ้างบุคคลที่สามมาก็ได้

 

 และด้วยสิ่งนี้ ฉันจะทำให้คาซุมะเข้าใจถึงความสำคัญของฮารุกะ

 

 ถ้าฉันบอกเรื่องนี้กับชิซุโกะและคนอื่นๆ ก็คงจะไม่มีปัญหา