หน้าหลัก > เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย) > ตอนที่ 28

ตอนที่ 28 - อย่าคิดมาก

เพื่อนสนิทผมคิดไม่ซื่อผมเลย ยม. มัน! (นิยาย)

28 อย่าคิดมาก


เรากลับมาถึงหมู่บ้านแล้ว

 

 แม้ว่าสิ่งที่ควรจะทำคือการพาเขาไปหาผู้ใหญ่บ้าน แต่ฉันจะพาเขาไปหาชิซุโกะก่อน

 

 แน่นอนว่าฉันได้ขออนุญาตจากผู้ใหญ่บ้านนะจิมแล้ว

 

 "เซเรส... ได้โปรด ช่วยอยู่กับฉันได้ไหม"

 

 “ลุงเซ็คเตอร์...ผมทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกนะ... ผมก็กลัวเธอเหมือนกัน ตอนเด็กๆ ผมทำให้เธอโกรธครั้งหนึ่ง และผมก็กลัวจนร้องไห้เลยแซ็คก็เหมือนกัน.. "

 

 อีกอย่าง เธอเคยโกรธฉันครั้งหนึ่ง... แต่เธอโกรธแซ็คหลายครั้งมาก


พอมองย้อนกลับไปตอนนี้แซ็คคงจะประหม่ามาก...

 เขาคงจะทนหลายครั้งและไม่หยุด

 

 "เฮ้ อย่าพูดแบบนั้นสิ... ฉันอุสาเลี้ยงนายเหมือนลูกชายเลยนะ..."

 

 “ขอโทษที...ผมยอมแล้ว”

 

 ฉันไม่อยากเห็นหน้าชิซุโกะที่ฉันรักตอนโกรธ

 

 เพราะงั้นฉันเลยคว้าแขนของเซ็คเตอร์ไว้และเปิดประตู

 

 "เซเรสคุง... ยินดีต้อนรับกลับมา... เซ็ค—เตอร์...! กล้าดียังไงมาโผล่หน้ามา..."

 

 “เซเรส ทำไมหมอนี่ถึงมาอยู่ที่นี่! ฉันนึกว่าเขาถูกส่งไปที่เหมืองแล้วซะอีก”

 

 "เซเรสซัง... ทำไมคุณถึงเอา...ขยะนี้กลับมาละคะ...?"

 

 "เซเรสจัง... เธอนี้ใจดีจังเลยนะ... แต่ไอ้ขยะนี่มันต้องตาย... อี๋ขยะแขยงชะมัด..."

 

 ฉันรู้ว่าจะต้องลงเอยแบบนี้

 

 ทั้งสี่คนใจดีกับฉันเสมอเหมือนเทพธิดา แต่พอพวกเธอโกรธพวกเธอก็น่ากลัวมากเลยนะ

 

 พวกเขาเป็นคนรักของฉัน พี่สาวของฉัน ภรรยาของฉัน... แต่พวกเขาก็เป็นแม่ของฉันตอนที่ฉันยังเด็กด้วย... และฉันก็รู้ดีว่ามันน่ากลัวแค่ไหน


"แน่นอน... ผมพาเขากลับมาเพราะฉันต้องการให้คุณได้เอาคืนแซ็คและคนอื่นๆ... ผมไม่อยากให้คุณตื่นขึ้นมาแล้วหมดไฟ... อย่าฆ่าผมนะ...โชคดีน่าลุงเซ็คเตอร์..."

 

 "เฮ้ เซเรสนี้นายล้อฉันเล่นใช่ไหม? ได้โปรด... ช่วยฉันด้วย... เฮ้ เฮ้"

 

 "ลุง"

 

 "เซเรส นายจะช่วยฉันใช่ไหม? ขอบคุณนะ..."

 

 "ปล่าว ผมแค่อยากจะบอกว่าถ้าคุณอยู่ในเหมือง คุณคงตายไปแล้ว...แต่ที่นี้อย่างมากคุณก็น่าจะตายแค่ครึ่งเดียว...ซึ่งนั่นก็ดีกว่าตายจริงในเหมืองนะ"

 

 “เซเรสคุง ฉันเข้าใจแล้ว ก็แค่อย่าให้ถึงตายใช่ไหมจ๊ะ?”

 

 "เซเรส... มันคงไม่เป็นไรเนอะ? ถ้าเขาแขนขาของมันจะหายไปซักข้างหนึ่งนะจ๊ะ?"

 

 "อืม... บางที เซเรสซังบอกว่าเราน่าจะให้มันเจอที่น่ากลัวกว่าเหมืองที่มันไปเจอมา"

 

 "อืม... ใช่ๆ... ทำด้วยมือพวกเราเองดีกว่า... นั่นคือสิ่งที่เธอพูดใช่ไหม เซเรสจัง"

 

 “เซเรส นายแค่หยอกฉันเล่นใช่ไหม? เฮ้ ได้โปรดช่วยลุงของนายด้วยยยย”

 

 “งั้นผมจะออกไปข้างนอกนะเสร็จแล้วช่วยเรียกทีนะครับ”

 

 """"โอเค (ก็ได้) (ได้) (เข้าใจแล้ว)""""

 

 "ม....ไม่น่าาาาาา!"

 

 ฉันเปิดประตูและเดินออกไป

 

 * * *

 

 หมู่บ้านนี้น่าอยู่จริงๆ...พืชพรรณเขียวขจีมากมายและท้องฟ้าสวยงาม

 

 ฉันนอนลงข้างบ้านและมองดูท้องฟ้า

 

 บางครั้งชีวิตก็ดูสับสน...

 

 ทุกคนที่ฉันรักตั้งแต่ยังเด็กคือแม่ของเพื่อนในวัยเด็กของฉัน

 

 มันเป็นความรักที่ฉันจะยอมแพ้ แต่มันก็เป็นจริงพอฉันยังยึดมั่นกับมันอยู่

 

 และก็ได้พวกเธอทั้งสี่ตามความฝัน

 

 ฉันเคยคิดตอนเป็นเด็กว่าฉันจะยอมตายเพื่อคนใดคนหนึ่งในสี่คน ถ้าเธอยอมแต่งงานกับฉัน ถ้าเธอยอมเป็นคนรักของฉัน

 

 และเมื่อเซ็คเตอร์บอกฉันว่าเขาจะมอบชิซุโกะที่แก่ให้ฉันด้วยเหรียญทองหนึ่งเหรียญ ฉันก็ฉวยโอกาสตอบรับทันที

 

 แต่ฉันสงสัยว่าเขาจะให้ฉันจริงๆรึเปล่า

 

 ชิซุโกะซังและคนอื่นๆ ไม่สามารถให้อภัย 'แซ็ค' ได้... แต่บังเอิญว่าเขาเปรียบสเหมือน 'กามเทพแห่งความรักในชาติที่แล้วของฉัน

 

 ท้ายที่สุด ถ้าเขากลายเป็นผู้กล้าและไม่ได้ชวนฉันเข้าปาร์ตี้ของเขา ฉันก็จะเป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดา

 

 และฉันก็แต่งงานได้แค่กับคนๆเดียวเท่านั่น

 

 เพียงเพราะเขาชวนฉันเข้าปาร์ตี้ของเขา ฉันเลยได้รับสิทธิ์ในการ 'มีภรรยาหลายคน' ภายใต้กฎหมาย 'การคุ้มครองของผู้กล้า' และสิทธิพิเศษทั้งหมด

 

 แน่นอนว่ามันเป็นงานที่หนักมาก... แต่ฉันคิดว่ามันก็คุ้มสุดๆ


แต่ไม่ว่าจะพยายามอธิบายยังไง...ก็ยังดีไม่พอ

 

 สำหรับโลกภายนอก ดูเหมือนว่าแซ็คและคนอื่นๆ ได้ทำสิ่งที่เลวร้ายกับฉัน

 

 ดังนั้นฉันต้องคิดตรงกันข้าม

 

 'มันดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพวกเขา...แต่สำหรับคนอื่นแล้ว มันดูเหมือนเป็นเรื่องที่แย่มาก'

 

 นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องค้นหา...

 

 แต่เสียงกรี๊ดดังมาตั้งนานแล้ว...

 

 อย่างน้อย...ขนาดนั้น...ก็เลี่ยงไม่ได้อะนะ


@อาเมนเซ็คเตอร์

 

 * * *

 

 หลังจากนั้นไม่นาน ฉันก็ไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องอีกต่อไป

 

 ดูเหมือนว่าจะจบลงแล้ว...

 

 ฉันเปิดประตูและเห็นเซ็คเตอร์นอนอยู่ที่นั่น

 

 "ลุงเซ็คเตอร์"

 

 ฉันตบหน้าเขาแต่เขาก็ไม่ตอบ

 

 ผมของเขากลายเป็นสีขาว

 

 "ลุงเซ็คเตอร์! ลุงเซ็คเตอร์! ลุงเซ็คเตอร์...!"

 

 "อุฟุฟุฟุ เซเรสคุง ไม่ต้องห่วง ฉันรักษาเขาด้วยเวทมนตร์รักษาแล้วจ๊ะ..."

 

 "เซเรส ไม่เป็นไรหรอกเขาแค่เกือบตายเอง แต่ชิซุโกะเป็นคนที่เชี่ยวชาญด้านเวทย์รักษา เพราะงั้น... ไม่ต้องตกใจหรอกนะ"

 

 "เซเรสซัง พวกเราทำเกินไปนิดหน่อย... แต่นั่นก็แค่นิดหน่อยถ้าเทียบกับสิ่งที่มันทำ อย่ากังวลเลย"

 

 "เซเรสจัง...ถ้าเป็นในเหมือง เขาคงตายไปแล้วดังนั้นครึ่งตายหรือเกือบตายถือว่าดีพอแล้วละ"

 

 ฉันกลัวเกินกว่าจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น...

 

 ฉันกลัวมากว่าทำไมผมของเขาถึงกลายเป็นสีขาว...มันไม่ปกติเลย

 

 แต่...ใช่ แค่ลืมไปซะ

 

 ผู้หญิงสี่คนที่อ่อนโยนราวกับเทพธิดาจะไม่ทำอะไรที่น่ากลัวแบบนี้หรอก

 

 “งั้นผมจะพาเขาไปหาผู้ใหญ่บ้านนะครับ”

 

 """"ไม่มีปัญหา""""

 

 ฉันอุ้มเซ็คเตอร์และพาเขาตรงไปหาผู้ใหญ่บ้าน

 

 * * *

 

 ในหมู่บ้าน อำนาจของผู้ใหญ่บ้านจะใกล้เคียงกับกษัตริย์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เว้นแต่จะมีขุนนางหรือลอร์ดเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

 ถ้ามีอะไรผิดพลาด ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด


ผู้ใหญ่บ้านยังกำหนดกฎของหมู่บ้านนอกเหนือจากกฎหมายอย่างเป็นทางการด้วย

 

 กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้ใหญ่บ้านมีอำนาจตุลาการและนิติบัญญัติสูงสุดเลย

 

 “เซ็คเตอร์แกกล้าดียังไงมาทำอะไรโง่ๆ แบบนี้... ในหมู่บ้านนี้ เวลาใครจนก็อาจจะยังพอรับได้ แต่เวลาใครรวยกฎหมายไม่อนุญาตให้ขายครอบครัวไปเป็นทาสหรอกนะ”

 

 ไม่น่าแปลกใจที่ชาวบ้านขายครอบครัวทั้งน้ำตาเมื่อไม่สามารถจ่ายภาษีหรือหาเลี้ยงชีพได้เนื่องจากการเก็บเกี่ยวที่เลวร้าย... แต่ในหมู่บ้านนี้ ห้ามคนร่ำรวยขายครอบครัวไปเป็นทาสโดยเด็ดขาด

 

 “ผมขอยอมรับบทลงโทษทุกอย่างครับ”

 

 "แต่ หมู่บ้านจะเดือดร้อนถ้ารู้เรื่องนี้...โชคดีที่ไม่มีโบสถ์ในหมู่บ้านนี้...ดังนั้นฉันจะไม่ลงโทษแกในเรื่องนี้... แต่ฉันจะเอาที่นาของแกไปเพราะพฤติกรรมขอแกและจะคืนบ้านให้หลังจากที่เซเรสและคนอื่นๆออกไป... และแกจะต้องออกหาและไปยึดพื้นที่รกร้างและปลูกมันอีกครั้งด้วยตัวแกเอง..."

 

 หมู่บ้านมีฐานะร่ำรวยและยังมีที่ดินที่ยังไม่ได้เพาะปลูก

 แต่ก็ยากที่จะปลูกตั้งแต่เริ่มต้น

 

 แม้จะมีคำพูดเช่นนั้น แต่หมู่บ้านนี้ก็ 'ใจดีต่อผู้ที่ต้องการ' และหากเซ็คเตอร์ต้องการเริ่มต้นใหม่ จะมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขา

 

 "ครับ...ผมจะทำ" 

 

 "แกควรจะปรับปรุงตัวและทำให้ดีที่สุด... และขอบคุณเซเรสซะที่ไปคุยกับลอร์ดให้ นั่นคือทั้งหมดที่ฉันต้องการจะพูด"

 

 "นั่นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณแล้วละ"

 

 “อ่า ขอบคุณนะ เซเรส”

 

 อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่บ้านก็ประหลาดใจเช่นกัน แม้ว่าเขาจะไม่แสดงออก

 

 เขาสงสัยว่าทำไมผมของเซ็คเตอร์ถึงเป็นสีขาวโพลนไปหมด...