10 เรื่องสั้นหลังจากที่เซเรสออกไป
มุมมองของแซ็ค
"ทำไมถึงไม่มีเงินละ" เซ็คกล่าว
“อย่าถามเรื่องนั้นนั้นกับฉัน” เมลพูด
“ไม่มีทางน่า เซเรสเอามันไปด้วยงั้นเหรอ?” มาเรียกล่าว
“มาเรีย เซเรสไม่มีวันทำแบบนั้นหรอกนะ เขาเป็นคนจริงจังมากเลยนะ” เมลพูด
“ไม่ใช่นะเมล ฉันล้อเล่นนะ แค่ล้อเล่น” มาเรียพูด
ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปที่สมาคมนักผจญภัย
"คริสตจักรได้ส่งเงินมาให้เราบ้างไหม?"
"ค่ะ ฉันได้ตรวจสอบตามที่ท่านแซ็คบอกฉันมาแล้วและมันก็เป็นเรื่องจริง"
ตลกสิ้นดีไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย
“โอเค เดี๋ยวฉันจะไปตรวจสอบที่โบสถ์เอง”
ฉันพาสามสาวไปที่โบสถ์โดยไม่มีทางเลือก
"ยังไม่โอนเงิน? จริงเหรอคะ? ยังไงปาร์ตี้ผู้กล้าของพวกเราก็มีความสำคัญสูงสุดนะคะ ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปตรวจสอบเรื่องนี้ให้นะคะ"
"ช่วยทีนะพวกเรากำลังลำบากอยู่นะ!"
"ท่านแซ็คค่ะ…ยังไม่มีเอกสารถูกส่งมาเลยค่ะ..."
“เอกสารอะไรนะ?”
ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย
"มันเป็นแผนการทางการเงินนะคะ"
"มันคืออะไร?"
บาทหลวงบอกฉัน เช่น 'ถ้าพวกคุณต้องการให้เราส่งเงินให้คุณสำหรับสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น' หรือ 'เรากำลังทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้นและเราต้องการเงินสำหรับอุปกรณ์' ฉันต้องเขียนรายงานโดยละเอียดและส่ง ไปให้แล้วจะโอนเงินมาให้เรา
"ฉันจำไม่ได้ว่าเคยกรอกเอกสารแบบนั่น พวกเธอเคยกรอกไหม?"
ทั้งสามคนส่ายหัว
"เดี๋ยวก่อนนะ... ดูเหมือนว่าเอกสารที่มีลายเซ็นของคุณถูกส่งไปที่รับเอกสารที่เขียนโดยคนอื่นค่ะ และชื่อของตัวแทนคือท่านเซเรน"
ลายเซ็นของฉัน?
'ฉันต้องส่งไปที่โบสถ์ ช่วยเซ็นให้หน่อยได้ไหม?'
อ่า อย่างงี้นี้เอง
“อ๋อ ไอ่เอกสารนั่นนะเหรอ? มันสำคัญขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?”
“ก็พวกเราคริสตจักรไม่สามารถทำอะไรได้ถ้าเราไม่รู้ว่าจำนวนเงินที่จะสนับสนุนให้คุณนะคะ”
ยังไงก็ตาม ฉันกรอกเอกสารที่จำเป็นทันทีและได้รับเหรียญทองหกมาเหรียญ (600,000 เยน)
*เท่ากับเงินไทย 154883.64 บาท (คิดตามอัตราการแลกเปลี่ยนวันที่24/2/23)
นี่เป็นเงินที่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในตอนนี้อะนะ แต่ฉันรู้สึกว่ามันน้อยเกินไป
"มันดูน้อยลงมากแลยแหะ…"
"นี่คือค่าครองชีพขั้นต่ำรายเดือนสำหรับผู้กล้าค่ะนอกจากนี้ คุณสามารถเรียกร้องค่าใช้จ่ายสำหรับรางวัลของเป้าหมายที่ทำได้ค่ะ ที่จำนวนเงินมีเพียงเท่านี้เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่ารางวัลอื่นๆใดเลยค่ะ"
“โอเค หลังจากนี้ฉันจะระวังไว้ เมล ช่วยศึกษาเกี่ยวกับรายละเอียดและดูแลเรื่องนี้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทีนะ”
“ทำไมต้องเป็นฉัน...”
“ก็เธอเป็นคนฉลาดที่ฉลาดที่สุดในหมู่พวกเราใช่ไหมละ?”
"ฉันรู้ฉันรู้"
จริงๆเอกสารนั้นหนาเท่าหนังสือเล่มหนึ่งเลย
และมันก็น่าปวดหัวใช่ไหมละ? ตามที่คาดไว้ ใบหน้าของเมลซีดเผือกเป็นไก่ต้มเลย
“เมลมันยากไปมั้ย?” แซ็คกล่าว
"ใช่ แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ไหว แต่มันยากพอๆ กับที่นายกเทศมนตรีเขียนจดหมายถวายพระเจ้าเลยละ! ถ้าฉันจะรับผิดชอบเรื่องนี้ฉันอยากจะขอไม่ดูแลงานส่วนอื่นๆอีกนะ" เมลกล่าว .
“เมล มุกนั่นไม่ค่อยตลกเลยนะว่าไหม? ขนาดเซเรสยังทำงานบ้านทั้งหมดไปพร้อมกับที่ทำเอกสารด้วยได้เลยนิ” ลิด้ากล่าว
"ลิด้า แล้วทำไมเธอไม่ทำเอกสารนี้แทนฉันล่ะ? เธอก็อ่านออกเขียนได้หนิใช่ไหมละ? มาเรียด้วยเธอก็ทำได้เหมือนกันนิ! ถึงตอนนั้น ฉันจะทำงานบ้านให้เอง... จริงๆนะฉันไม่ชอบงานเอกสารเลย!" เมลกล่าว
เมลเอะอะโวยวาย เราก็เลยมองเธอและฉันก็รู้ได้ทันทีที่เห็นว่าเธอดูไม่อยากทำขนาดไหน
“เมล ฉันเข้าใจเธอนะ เธอแค่มีสมาธิกับเรื่องนั้นก็พอแล้วละ”
"เอาล่ะ... นี่คือรายงานเกี่ยวกับเงิน อ่า... ปวดหัวจัง! ทำไมมันซับซ้อนจัง? เฮ้ แซ็คบอกฉันทีหลังด้วยว่าของที่นายซื้อล่าสุดคืออะไรและราคาเท่าไหร่! นอกจากนี้ บอกเป้าหมายของคนายและการฝึกฝนแบบไหนที่จะเอาชนะจอมมารมาด้วย!
"เข้าใจแล้ว"
นั่นคือทั้งหมดที่ฉันพูดได้ต่อใบหน้าที่ดูน่ากลัวของเมล
* * *
"ลิด้า... เธอช่วยทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อยไม่ได้เหรอ" มาเรียกล่าว
“ถ้าเธอไม่ชอบอาหารที่ฉันทำมาเรียทำให้ได้หรือจะเป็นแซ็คก็ทำได้ เหมือนกัน ส่วนเมลเป็นข้อยกเว้น...” ลิด้าพูด
“ฉันจะไม่บ่น… เพราะลิด้าทำอาหารเก่งดีกว่าฉัน” แซ็คกล่าว
“ขอโทษละกันถ้ามันแย่ขนาดนั้น” ลิด้ากล่าว
“ใช่ ดีกว่าโดนเผาไม่ใช่เหรอ?” แซ็คกล่าว
ลิด้าเป็นคนเดียวที่ทำอาหารได้
แต่ลิด้าทำอาหารได้แต่เค็มเท่านั้น
และทั้งหมดที่เธอทำได้คือการเอาเนื้อไปคลุกเกลือและปรุงอาหารหรือทำซุปรสเค็ม
มาเรียกับฉันไม่ได้ทำได้ดีไปกว่านั้น และด้วยเหตุผลบางอย่าง อาหารของมาเรียกลายเป็นถ่านเฉยเลย
"ฉันอยากกินไข่เจียวออมเล็ตของเซเรส"
"แฮมเบอร์เกอร์ของเขาก็อร่อยเหมือนกัน"
"เฮ้ มาเรีย เมล อย่าพูดแบบนั้นสิ! เดี๋ยวลิดาก็เสียใจหรอก"
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร! ถึงฉันจะอยากกินซอสมะเขือเทศนาโปลีของเขาด้วยก็เถอะ"
ถึงอย่างนั้น ประเภทของอาหารที่เซเรสทำได้ก็มีอยู่ในเมือง
อย่างไรก็ตาม มันมีให้บริการเฉพาะในร้านอาหารระดับไฮเอนด์ และพวกเราสี่คนสามารถใช้เหรียญเงินได้มากสุดแค่สองเหรียญ (ประมาณ 20,000 เยน)
*เท่ากับเงินไทย 5162.79 บาท (คิดตามอัตราการแลกเปลี่ยนวันที่24/2/23)
ยิ่งกว่านั้น แม้แต่อาหารที่ภัตตาคารหรูระดับนั้นก็ยังไม่อร่อยเท่ากับของเซเรสทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร้านอาหารนั้นๆเองด้วย
“ไม่ได้การแล้ว พรุ่งนี้ไปกินข้าวนอกบ้านกันเถอะ”
"""เห็นด้วยฟุดๆ (ลุยยย)"""
ถึงอย่างนั้น อาหารก็ยังคงแย่กว่าของเซเรสอยู่ดี
ในท้ายที่สุด เพราะว่าฉันไม่ต้องการซักชุดชั้นในและเสื้อผ้าของผู้หญิง หน้าที่ของฉันเลยจะต้องจัดการเกี่ยวกับโรงแรม สิ่งของที่จำเป็น และไปช้อปปิ้ง
มาเรียน่าจะเหมาะกับการซักผ้านะ
ฉันไม่รู้ว่าฉันจะมีสมาธิกับการต่อสู้ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปได้ไหม... ฉันแน่ใจว่านั่นคือสิ่งที่เราทั้งสามคนกำลังคิดเหมือนกันอยู่
* * *
ฉันอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ
ทุกวันนี้เราเริ่มที่จะสกปรกมากขึ้นเรื่อย ๆ
ผมของมาเรียและเมลก็รุงรังขึ้นด้วย
ดังนั้นฉันจึงขอให้ลิด้าซึ่งเป็นคนเดียวที่อยู่ในสภาพจิตใจที่ทั่นคงเพื่อที่จะแก้ไขปัญหานี้
แต่ลิด้ากลับพูดว่า "นั่นเป็นไปได้ด้วยงั้นเหรอ?"
"ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้ละ? ฉันซื้อทุกอย่างตั้งแต่โลชั่นไปจนถึงแชมพูมาให้แล้วไง" แซ็คถาม
"ก็นะ เรื่องทรงผม ฉันก็แค่มัดผมไว้ด้านหลัง เพราะงั้นมันเลยไม่มีปัญหาตราบใดที่ฉันยังสระผมอยู่เข้าใจไหม? แต่พวกนั่นนะไปขอให้เซเรสทั้งเป่าผมทั้งถักเปียพอไม่มีใครทำให้ผมมันก็จัยุ่งแบบนั่นนั้นแหละ”
เซเรสอีกแล้ว
ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่พวกเราไม่สามารถเดินทางตามแผนที่วางไว้ได้แน่
เราจะต้องทำอะไรซักอย่างก่อนที่ฉันและทุกคนจะเหนื่อยเกินไป
บางทีเราควรคุยกับใครสักคนเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ขนาดในเมืองยังลำบากเลยแล้วเราจะเดินทางไปที่ที่อันตรายได้ยังไงละ?”
ฉันสามารถขอให้คริสตจักรดูแลพวกเราในเมืองได้ แต่รายละเอียดที่ฉันได้ยินมาคือเราจะต้องอาศัยอยู่ในบริเวณของคริสตจักรถึงจะขอแบบนั่นได้
เมื่อฉันบอกมาเรียเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอปฏิเสธความคิดนี้แบบหัวเด็ดตีนขาดและบอกว่า "ไม่มีทาง"
เธอบอกว่า "คริสตจักรนะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย! แม้แต่เนื้อสัตว์ก็ไม่ค่อยได้เสิร์ฟ เตียงก็แข็ง และเราจะต้องจัดการเรื่องพื้นฐานของตัวเองเอง แต่ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ดีขึ้นแล้วรึยัง"
มาเรียอยู่ในโบสถ์สองถึงสามสัปดาห์เพื่อฝึกฝนพลังในการรักษาของเธอ
ถ้าเธอพูดอย่างนั้น จะต้องเป็นเรื่องจริงแน่
ถ้าไม่ไปที่โบสถ์หรืออนาเขตของคริสตจักรแล้วจะเอายังไงกันต่อดี? หรือจะ...
"คำขอ? ไม่จำเป็นต้องพึ่งพานักผจญภัยในเมืองหรอกนะคะ? ทำไมพวกคุณไม่ไปที่ร้าน
ะค่ะ! นั่นคือสิ่งที่นักผจญภัยทุกคนทำ แต่ถ้าคุณต้องออกไปข้างนอก คุณอาจต้องเสียเงินมากกว่า 4 เหรียญทองต่อวันเลยนะคะ” พนักงานต้อนรับของกิลด์กล่าว
แซ็คได้ตะโกนออกมาว่า "มันแพงเกินไปแล้ว!"
“อืม สำหรับปาร์ตี้แรงค์ S น่ะปาร์ตี้แรงค์ B หรือแรงค์ต่ำกว่าไม่สามารถปกป้องคุณได้เท่าที่พวกคุณสามารถปกป้องตัวเองได้หรอกนะคะแต่ถ้าคุณต้องการราคาที่ต่ำกว่าไปกว่านี้พวกคุณก็สามารถที่จะไปซื้อทาสได้ค่ะ”
“โอเค ขอบคุณสำหรับข้อมูล ขอโทษที่รบกวนด้วยนะ”
พนักงานต้อนรับของกิลด์ต้องอารมณ์เสียแน่ๆ
หลังจากนันฉันก็ไปโบสถ์เพื่อที่จะขอทาสและพวกเขาก็โกรธฉันมากเลย
สุดท้ายแล้วฉันก็หาทางอุดช่องว่างจากการที่เซเรสออกไปไม่ได้เลย