9 สู่หมู่บ้านจิมนะ
"อรุนสวัสดิ์ครับ"
"อรุณสวัสดิ์จ๊ะ~"
แต่ตอนนี้ก็เลยบ่วงเช้ามาแล้ว
ใกล้จะถึงเวลานอนอีกรอบแล้วด้วยซ้ำ
บางทีร่างกายของเราอาจเข้ากันได้ แต่เราอยู่ตัวติดกันมาเกือบ 24 ชั่วโมงแล้ว
ฉันรู้สึกอายนิดหน่อยพอเห็นชิซุโกะจ้องมาที่ฉันบนเตียงรกๆ และในที่สุดฉันก็รู้สึกโล่งใจว่าสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่เป็นเรื่องจริง
เธอก็น่าจะเหนื่อยเหมือนกัน
"ชิซุโกะซังครับ คุณนอนพักต่อก็ได้นะเดี๋ยวผมจะไปทำอาหารให้นะครับ”
“ไม่ใช่ว่าเราควรทำความสะอาดเตียงก่อนแล้วไปอาบน้ำต่อเหรอจ๊ะ พวกเราเหงื่อออกแล้วก็... ตัวตัวเหนียวด้วย”
ฉันเหงื่อออกจริง ๆ แต่ก็รู้สึกสบายอย่างประหลาดชะมัด
“อืม แต่ผมได้กลิ่นของชิสุโกะซังนะครับ เพราะงั้นผมขออยู่แบบนี้อีกสักพักนะครับ”
"โถ้วว! อย่าพูดเรื่องน่าอายแบบนี้จ๊ะ เราไปอาบน้ำกันเถอะ!"
แล้วชิสุโกะก็จูงมือฉันเข้าไปในห้องน้ำ
"ผมเหงานะ"
ฉันถอนหายใจออกมา
“ถ้าเธอชอบกลิ่นของฉันมาก ฉันจะให้เธอดมใหม่เอง ไม่เห็นต้องเหงาเลย”
ความเขินอายของชิซุโกะนั้นน่ารักมากจนฉันรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง และเราก็จบลงด้วยการ s*x ในขณะที่อาบน้ำ
"อายุยังน้อยนี้ยอดมากเลย...และยังทำได้ถี่ขนาดนี้..อ๊ะ…อ่า…ไม่ใช่สิ…ที่ฉันหมายถึง…ทำไมเซเรสคุง…อ่า…อ๊า…ทำไมเธอถึงเก่งขนาดนี้ละ?”
ฉันรู้สึกเหมือนอารมณ์ในจิตใจของฉันถูกลากไปตามร่างกายที่ยังเด็กของฉัน
ยังไงก็ตาม ฉันคิดว่าฉันสามารถทำตัวให้สงบกว่านี้ได้อีกหน่อย แต่ร่างกายของฉันก็ยังตอบสนองต่อชิซุโกะ
พอมาคิดอย่างใจเย็น ฉันยังซิงอยู่เมื่อไม่นานมานี้ด้วยร่างกายของเด็กหนุ่มช่วงวัยรุ่นที่อยู่ในช่วง ‘ช่วงเวลาสำคัญของเซ็ก’
และผู้หญิงตรงหน้าฉันคือ 'รักแรกและผู้หญิงในสเป็คของฉัน' จึงไม่แปลกใจเลยที่ฉันจะสงบสติอารมณ์ได้ยากขนาดนี้
ฉันเคยเป็นผู้ชายที่มีความต้องการทางเพศมากขนาดนี้มาก่อนรึเปล่านะ?
ในชาติที่แล้วของฉันไม่เคยมีช่วงแบบนี้เลย
บางทีเราอาจจะเข้ากันได้ดี... ฉันคิดอย่างงั้นอะนะ
นอกจากนี้ ชิซุโกะยังยอมรับทุกอย่างเกี่ยวกับฉัน ซึ่งนั่นทำให้ฉันผ่อนคลายได้ยากขึ้นอีก
สุดท้ายกว่าเราจะก็ออกจากห้องน้ำก็ปาไปชั่วโมงกว่า
"ผมขอโทษครับ ที่ปล่อยตัวทำตามใจไปแบบนั่น"
“ฉันดีใจที่เธอต้องการฉันในฐานะผู้หญิงนะจ๊ะ แต่ฉันก็เริ่มเหนื่อยแล้ว เพราะงั้นพักกันก่อนเถอะนะ”
"โอเคครับ"
จากนั้นชิซุโกะก็เริ่มทำความสะอาดห้องน้ำและเตียงนอน
ระหว่างนั้นฉันก็เริ่มทำอาหารแบบที่จะทำตอนแรก
ฉันน่าจะทำข้าวไข่เจียวและซุปจากวัตถุดิบที่มีอยู่ได้...
ทำง่ายกินเร็วว่างั้นเถอะ งั้นมาลงมือทำกันดีกว่า
ฉันผัดข้าวกับแฮมและหัวหอมพร้อมกับซอสมะเขือเทศโฮมเมด
ใช้ตะเกียบทุบไข่แล้วก็ห่อข้าวด้วยไข่เหมือนตอนห่มผ่าห่ม... จากนั้นก็เขียนคำว่า "ชิซุโกะ" แล้วก็วาดหัวใจรอบๆคำนั่น... แล้วก็ โวล์ล่า!
(ภาษาฝรั่งเศษแบบ พูดตอนทำอาหารเสร็จแล้ว อะแบบ อเลคูซีน ในเชฟกระทะเหล็ก ประมาณนั่น)
ข้าวไข่เจียวสุดเลิฟ พร้อมเสริฟแล้ว!
"ชิซุโกะซัง อาหารพร้อมแล้วครับ!"
“เธอยังเก่งเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ อ่า เธอทำข้าวไข่เจียวงั้นเหรอเนี่ยทำให้นึกถึงเรื่องเก่าๆเลยแต่ว่านะเซเรสคุง เธอทำอาหารได้น่าทานมากเลย ฉันทำแบบนี้ไม่ได้เลย และยิ่งไปกว่านั้น เครื่องหมายหัวใจนั่น! อุฟุฟุฟุ ฉันมีความสุขจังเลย”
ฉันไม่สามารถโกงความรู้ได้ แต่ไม่มีซอสมะเขือเทศและมายองเนสขายเลยเว้นแต่ฉันจะไปเมืองใหญ่
และพวกมันก็ทำได้ไม่ยากท แต่พวกมันก็ถูกในฐานะเครื่องปรุงรสชั้นสูงพวกซอสและโชยุก็ด้วย
บางทีมันอาจจะแพงเพราะใส่เครื่องปรุงแปลกๆไปด้วยอะนะ
แม้ว่าฉันจะไม่รู้วิธีทำโชยุหรือซอส แต่ฉันสามารถทำซอสมะเขือเทศและมายองเนสได้
"มากินกันก่อนที่มันจะเย็นดีกว่าครับ...ทานละนะครับ!"
“ทานละนะคะ!”
ฉันจ้องมองไปที่ชิสุโกะซังซึ่งกำลังกินอย่างมีความสุขโดยเอามือมาอังที่แก้มของเธอ
แม่บ้านมักพูดว่าการทำอาหาร "ไม่คุ้ม" หรือ "ไม่คุ้มที่จะทำ" แต่ตอนที่ฉันมาถึงโลกนี้ฉันก็เริ่มเข้าใจมันมากขึ้นแล้วละ
การทำอาหารให้ชิซุโกะซังนั้นแตกต่างมากกับการทำอาหารให้แซ็คและมาเรียที่ไม่แม้แต่จะชมหรือลิ้มรสพวกมันแบบดีๆ
ถ้าเป็นคุณชิซุโกะที่กินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย ฉันก็อยากจะทำอีก แต่กับคนพวกนั้น ฉันมีความรู้สึกว่า 'ก็แค่ต้องแก้หิว' เท่านั้นเอง
มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
และฉันไม่ต้องการที่จะเขียนเครื่องหมายหัวใจให้กับพวกนั้นด้วย
“นี้ เธอจ้องฉันอีกแล้วนะ ไม่กินหน่อยเหรอจ๊ะ”
“ปล่าวครับพอดีผมแค่กำลังชื่นชมในความงามของคุณเพลินไปหน่อยนะครับ”
"อุฟุฟุฟุ งั้นเหรอจ๊ะ อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ! แล้วเธอจะทำอะไรต่องั้นเหรอ? ถ้ามีอะไรที่เธออยากทำ ฉันจะช่วยสนับสนุนเธอทุกเรื่องเลยจ๊ะ"
ฉันอยากจะทำอะไรต่องั้นเหรอ
อาจจะไม่มีอีกแล้ว
ฉันเป็นนักผจญภัยแรงค์ S และถึงแม้ว่าฉันจะไม่เก่งเท่าแซ็คแต่ฉันก็เป็นถึง 1 ใน 30 สุดยอดนักผจญภัยของโลก
สำหรับฉันก็ลารได้มีชิซุโกะซังมาเป็นภรรยาและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขก็พอแล้ว
“ตอนนี้ผมก็มีความสุขมาก บางทีแค่นี้ก็น่าจะพอแล้วละครับ”
ถ้าฉันจะพูดอย่างนั้น ฉันกังวลว่าแซ็คและคนอื่นๆ จะมีปัญหาเพราะความเป็นพ่อของฉันรึเปล่า แต่พวกเขาไล่ฉันออกมาก่อน้องเพราะงั้นฉันเลยไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นแล้ว
ถ้ามีอะไรที่เป็นปัญหาละก็นั่นคือฉันไม่มีอะไรที่อยากจะทำเลย
"ถ้าเซเรสคุงไม่มีอะไรจะทำ ทำไมเราไม่กลับไปที่หมู่บ้านกันสักพักล่ะ? ฉันอยากจะลงโทษเซ็คเตอร์สักหน่อยนะจ๊ะ... อุฟุฟุฟุ แบบนั่นเป็นไงจ๊ะ?”
ฉันลืมไปเลยว่าฉันเคยคิดที่จะกลับไปที่หมู่บ้านและกลายเป็น "นักผจญภัยท้องถิ่น" ตั้งแต่ฉันได้พบกับชิสุโกะ ถ้าจำไม่ผิดอะนะ?
ฉันลืมมันไปหมดแล้ว
บางทีฉันน่าจะกลับไปที่หมู่บ้านจิมนนะ (บ้านเกิดของฉัน) สักพักหนึ่งแล้วกัน
"ผมลืมเรื่องนี้ไปเลยหลังจากที่เจอกับชิซุโกะซัง แต่ผมคิดว่าก็ดีนะครับที่พวกเราจะกลับไปที่หมู่บ้านจิมนะสักพักเพื่อพักผ่อนกัน และถ้าชิซุโกะซังอยากไปที่นั่นก็ไม่ติดอะไรด้วยครับ"
“งั้นก็กลับบ้านด้วยกันนะจ๊ะ”
“ใช่ กลับกันเถอะครับ แล้วเราจะมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นต่อพอไปถึงแล้ว”
เราจึงตัดสินใจกลับไปที่หมู่บ้านจิมนะสักพักหนึ่ง